แรงงานต่างด้าว MOU เปลี่ยนนายจ้างได้

          แรงงานต่างด้าว MOU หมายถึง แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยภายใต้ ข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding - MOU) ระหว่างประเทศไทยและประเทศต้นทางของแรงงาน โดยประเทศที่มีการลงนาม MOU ด้านแรงงานกับไทย ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยเป็นการเข้ามาทำงานในประเทศไทยแบบถูกกฎหมาย มีการรับรองจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศ การนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาผ่านระบบ MOU ช่วยลดปัญหาการหลบหนีเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมายและเป็นการส่งเสริมให้แรงงานต่างด้าวมีสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและเป็นธรรมตามกฎหมาย

          แรงงานต่างด้าว MOU จะได้รับสิทธิ์ในการทำงานเป็นระยะเวลาทั้งหมด 4 ปี เมื่อครบ 2 ปีแรก จะสามารถขอต่ออายุการทำงานได้อีก 2 ปี รวมระยะเวลาการทำงานทั้งสิ้น 4 ปี โดยจะต้องดำเนินการต่ออายุภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น ถ้าเกินกำหนดเวลาจะถือว่าใบอนุญาตทำงานขาด ทำให้ต้องเสียค่าปรับ และดำเนินการทำ MOU ใหม่เท่านั้น

กระบวนการ MOU มีขั้นตอนสำคัญ

  1. การตกลงและอนุมัติจากรัฐบาลทั้งสองประเทศ ประเทศไทยและประเทศต้นทางของแรงงานทำข้อตกลงที่รับรองสิทธิของแรงงานต่างด้าว เช่น ค่าจ้าง สวัสดิการ และสภาพการทำงาน เพื่อให้แรงงานสามารถเข้ามาทำงานได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย

  2. กระบวนการสรรหาตามระบบ MOU นายจ้างในประเทศไทยที่ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวจะต้องดำเนินการผ่านระบบนี้ โดยมีการยื่นขออนุญาตและทำการสรรหาแรงงานตามขั้นตอนและระเบียบที่กำหนด เพื่อให้ได้แรงงานที่มีคุณสมบัติตามความต้องการของธุรกิจ

  3. การคุ้มครองแรงงานตามกฎหมายไทย แรงงานที่เข้ามาภายใต้ MOU จะได้รับสิทธิและการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานไทย รวมถึงค่าจ้างขั้นต่ำ วันหยุด สวัสดิการต่าง ๆ และการประกันสุขภาพ

  4. ระยะเวลาในการทำงาน แรงงานที่เข้ามาภายใต้ MOU จะมีใบอนุญาตทำงานตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งสามารถขยายอายุใบอนุญาตได้หากยังมีการจ้างงานต่อเนื่อง

แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) สามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ ในกรณี

  1. นายจ้างเสียชีวิต แรงงานต่างด้าวสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้หากนายจ้างเดิมเสียชีวิต เนื่องจากไม่มีบุคคลที่จะรับผิดชอบดูแลแรงงานนั้นอีกต่อไป

  2. นายจ้างเลิกกิจการ หากนายจ้างยุติหรือเลิกกิจการ แรงงานสามารถขอเปลี่ยนนายจ้างได้ เพราะไม่มีงานหรือสถานประกอบการที่สามารถทำงานได้อีก

  3. นายจ้างกระทำทารุณกรรม ในกรณีที่นายจ้างกระทำการทารุณกรรมแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงหรือการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายคุ้มครองแรงงาน แรงงานสามารถขอเปลี่ยนนายจ้างได้

  4. นายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากนายจ้างละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับคุ้มครองแรงงาน เช่น ไม่จ่ายค่าจ้าง ไม่ให้สวัสดิการที่ถูกต้องตามกฎหมาย แรงงานก็สามารถยื่นขอเปลี่ยนนายจ้างได้เช่นกัน

          การเปลี่ยนนายจ้างภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องสิทธิของแรงงานต่างด้าวและให้แรงงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย

 

ที่มา เงินติดล้อ