รายการ	จำนวน	จำนวนเงิน
ไม่มีรายการ

Problem-Solving Mindset ทักษะที่คนทำงานต้องมี จัดการกับความท้าทายในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหาใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่ซับซ้อน เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไว หรือการทำงานร่วมกับทีมหลากหลายเจเนอเรชัน

Problem-Solving Mindset หรือ ทัศนคติในการแก้ปัญหา จึงเป็นทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ทุกคนต้องมี

ไม่ใช่แค่ คิดหาคำตอบได้ แต่ต้องมี วิธีคิด ที่มองเห็นปัญหาอย่างเป็นระบบ เข้าใจสาเหตุที่แท้จริง และกล้าลงมือแก้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในองค์กร ไม่ได้มีคนที่ ไม่มีปัญหา แต่มีคนที่ แก้ปัญหาได้ เท่านั้นที่ไปต่อได้เสมอ

1. เข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ (Understand the Problem Deeply)

การแก้ปัญหาที่ดี เริ่มจาก “การเข้าใจปัญหาให้ถูกต้อง” หลายครั้งเรามุ่งหาคำตอบเร็วเกินไป จนลืมถามตัวเองว่า “ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร”

ตัวอย่างเช่น

ยอดขายตก…จริง ๆ แล้วเพราะทีมขายไม่เข้าใจสินค้า หรือเพราะลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรม?
งานดีเลย์…เพราะคนไม่พอ หรือเพราะการวางแผนไม่ดี?

การตั้งคำถามและเก็บข้อมูลจากหลายมุม จะช่วยให้เราเห็น “รากของปัญหา” (Root Cause) ซึ่งเป็นก้าวแรกของการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง

2. คิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking)

เมื่อเข้าใจปัญหาแล้ว ขั้นต่อมาคือการ วิเคราะห์อย่างมีระบบ ใช้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุผล เพื่อแยกแยะว่าอะไรคือ “อาการ” และอะไรคือ “ต้นเหตุ”

ตัวอย่างการคิดเชิงวิเคราะห์ในงาน HR เช่น

วิเคราะห์สาเหตุของการลาออก จากสถิติ, แบบสอบถาม, และสัมภาษณ์จริง
แยกปัญหาด้านบุคลากรออกเป็น “ทักษะ”, “แรงจูงใจ”, หรือ “การบริหารจัดการ”
การคิดเชิงวิเคราะห์ช่วยให้เราไม่ตัดสินจากความรู้สึก แต่ใช้หลักฐานเป็นตัวนำทาง

3. ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

เมื่อเข้าใจปัญหาและวิเคราะห์ได้แล้ว ขั้นต่อมาคือ “หาวิธีแก้แบบใหม่ ๆ” เพราะบางครั้งคำตอบที่ดีที่สุด ไม่ได้อยู่ในตำรา แต่เกิดจากการคิดนอกกรอบ

เช่น

ปรับวิธีทำงานแบบเก่าด้วยเทคโนโลยีใหม่
สร้างกิจกรรมสื่อสารในองค์กรให้สนุกขึ้นแทนการประชุมแบบเดิม
ใช้วิธี gamification หรือ storytelling เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้ทีมงาน

ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องของศิลปะเท่านั้น แต่คือการ “คิดทางเลือกใหม่” ที่ตอบโจทย์ปัญหาได้จริง

4. เปิดใจรับความคิดเห็น (Open-Mindedness)

ไม่มีใครแก้ปัญหาได้คนเดียวเสมอ การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น ช่วยให้เราเห็นมุมมองที่ไม่เคยคิดมาก่อน โดยเฉพาะในองค์กรที่มีคนหลายรุ่น หลายประสบการณ์ การฟังกันอย่างตั้งใจคือกุญแจสำคัญของการหาคำตอบร่วมกัน

“คนที่เก่งในการแก้ปัญหา ไม่ใช่คนที่คิดถูกเสมอ แต่คือคนที่ฟังได้ทุกมุม”

5. กล้าตัดสินใจและลงมือทำ (Decision & Action)

หลายครั้งองค์กรมีไอเดียดี ๆ มากมาย แต่ ไม่ลงมือทำ เพราะกลัวผิดพลาด การมี Problem-Solving Mindset หมายถึงการ กล้าตัดสินใจบนข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนั้น

และเมื่อเลือกแล้ว ต้องพร้อมรับผลลัพธ์ เรียนรู้ และปรับปรุงต่อเนื่อง เพราะ “ไม่มีการแก้ปัญหาใดที่สมบูรณ์แบบในครั้งเดียว” แต่ทุกการลงมือคือการเรียนรู้ที่พาเราเข้าใกล้คำตอบมากขึ้นเสมอ

6. ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Adaptability)

ในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว แผนที่เคยได้ผลเมื่อวาน อาจไม่เหมาะกับวันนี้ คนที่มี Problem-Solving Mindset ต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่เสมอ

ถ้าวิธีเก่าใช้ไม่ได้ ต้องกล้าลองวิธีใหม่
ถ้าเจออุปสรรค ต้องมองมันเป็นโอกาสในการเรียนรู้

องค์กรที่มีพนักงานแบบนี้ จะสามารถ “เปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาส” ได้เสมอ

ปัญหาคือโอกาสในการเติบโต

Problem-Solving Mindset ไม่ใช่แค่ทักษะในการแก้ปัญหา แต่คือ ทัศนคติในการเผชิญหน้าอย่างมีสติและสร้างสรรค์

ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานใหม่ หัวหน้างาน หรือ HR การมีทักษะนี้จะช่วยให้ ทำงานได้อย่างมั่นใจ สื่อสารกับทีมได้ดีขึ้น และสร้างคุณค่าให้กับองค์กรในระยะยาว

เพราะในทุกปัญหา มักซ่อน “โอกาส” ไว้เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นมันหรือไม่เท่านั้น

ที่มา JobsDB

หากคุณกำลังมองหาระบบเงินเดือนและ HR ที่ครอบคลุม เราขอแนะนำ Bplus HRM - โปรแกรมเงินเดือนครบวงจรสำหรับองค์กรไทย ที่รองรับทั้งแบบโปรแกรมเงินเดือน On-premise หรือโปรแกรมเงินเดือน on Cloud และโปรแกรมเงินเดือนแบบออนไลน์ใช้งานผ่านเว็บ ซึ่งโปรแกรมเงินเดือนสำเร็จรูปอย่าง Bplus HRM ไม่เพียงช่วยลดเวลาและความผิดพลาดในการคำนวณเงินเดือน แต่ยังช่วยบริหารงานบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกระบบที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว สำหรับองค์กรที่ต้องการระบบที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ Bplus HRM คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ สามารถติดต่อขอชมการสาธิตและทดลองใช้ระบบได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Business Plus