วางตัวในสถานะ “คนกลาง” ของเพื่อนร่วมงานที่อริกัน

          “คนเยอะ เรื่องแยะ” เป็นคำพูดเกี่ยวกับคนที่ใช้ได้แทบทุกวงการ ที่ไหนที่มีคนหลายคน ปัญหาก็ย่อมมีมากตามมา ร้อยคนก็มีได้ร้อยความคิด ความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นได้เป็นร้อยปัญหา เพราะแต่ละคนมีที่มาที่แตกต่างกัน สภาพแวดล้อมที่เติบโตมาก็ไม่เหมือนกัน ไหนจะเรื่องวัย ประสบการณ์ ทัศนคติ ความคิด ความต่างกันทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเป็นต้นเหตุของการทะเลาะกันได้ทั้งสิ้น 

          ในสังคมการทำงาน เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ๆ ที่สำคัญคือไม่เคลียร์ใจหรือพูดกันตรง ๆ ทำให้ส่วนมากแล้วปัญหาเรื่องงานมักจะไม่จบที่คนสองคน แต่กลายเป็นปัญหาของคนสองกลุ่มสามกลุ่มแทน แบ่งพรรคแบ่งพวก ถ้าความสัมพันธ์ของคนที่ทำงานในทีมเดียวกันไม่ดี มีทีมยิบย่อยทีมเล็กทีมน้อยไม่สามัคคีกัน ประสิทธิภาพในการทำงานมันก็ย่อมแย่ลงตาม

 

ถ้าคุณไม่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งไหนเป็นพิเศษ หรืออยู่ในสถานะคนกลางเต็มตัว แล้วต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ จะทำยังไงดี

ฟังหูไว้หูอย่างเป็นกลาง ไม่ต้องแยกข้างผสมโรง

เมื่อรับรู้ข้อมูลจากฝ่ายไหนก็ฟังหูไว้หู ไม่ต้องแสดงความเห็น ทั้งสนับสนุนหรือคัดค้าน อย่าหูเบาเชื่อการสาดโคลนใส่กัน และอย่าออกโรงไปเป็นคู่กรณีเพิ่มเด็ดขาด ฟังอย่างตั้งใจ เพื่อที่จะได้เข้าใจมุมมอง และเหตุผลของแต่ละฝ่าย เผื่อว่าเข้าใจปัญหาที่แท้จริงแล้วอาจช่วยแก้ปัญหาได้

 

ฟังแล้วเหยียบ อย่าพูดต่อให้เป็นเรื่อง

ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาปรับทุกข์หรือขอคำปรึกษา คุณควรรับฟังแล้วเหยียบไว้ตรงนั้น รับรู้อย่างเดียวพอ อาจช่วยแก้ปัญหาเท่าที่ช่วยได้บ้าง แต่ไม่ต้องเอาไปเล่าให้อีกฝ่ายฟัง หากคุณรักษาความลับหรือเรื่องอ่อนไหวแบบนี้ไม่ได้ ระวังว่าความปากรั่วจะกลับมาทำร้ายคุณเอง กลายเป็นหมดความน่าเชื่อถือ กลายเป็นพวกหนอนบ่อนไส้ นกหลายหัว แถมยังอาจจะเสียเพื่อนร่วมงานทั้งสองฝ่ายไปก็เป็นได้

 

ไกล่เกลี่ยเท่าที่โอกาสจะเอื้อ

ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป และไม่เดือดร้อนตัวเอง ก็พยายามหาวิธีไกล่เกลี่ยเท่าที่โอกาสจะเอื้อ อาจเจอกันครึ่งทาง โดยมีคุณเป็นคนคอยเชื่อมสัมพันธ์ ประสานงาน ห้ามทัพ หรือพูดคุยหาข้อยุติความขัดแย้ง ดีกว่าให้สองฝ่ายนั้นเผชิญหน้ากันเอง เพราะคุณก็รู้สถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย คุณจึงสามารถประนีประนอม และกรองความรุนแรงออกไปบางส่วนได้ ซึ่งหากพวกเขาเกรงใจคุณด้วย พวกเขาก็จะยอมลดข้อเรียกร้องหรือเงื่อนไขของตัวเองลงเช่นกัน

 

ระวังการเป็นมนุษย์จอมเสี้ยม

คุณจะได้รู้ข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย ตรงนี้แหละที่อาจทำให้คุณกลายเป็นนกสองหัวโดยไม่รู้ตัว เพราะถ้าคุณเกิดแสดงออกหรือพูดอะไรที่ชวนเข้าใจผิดนิดเดียว ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม มันก็จะทำให้คุณกลายเป็นมนุษย์จอมเสี้ยมด้วย รวมถึงหากคุณแยกออกไปก็อาจกลายเป็นฝ่ายที่สามอีก คุณจึงต้องระวังตรงจุดนี้ให้มาก วางตัวให้เหมาะ มีสติ คิดให้มากก่อนทำก่อนพูดเสมอ

 

ลองขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีอำนาจจัดการ

แต่ต้องแยกให้ออกก่อนว่าการขอคำปรึกษา ขอคำแนะนำ หรือขอความช่วยเหลือไม่เท่ากับการฟ้อง และพยายามอย่าให้ทั้งสองฝ่ายรู้ว่าเป็นคุณ ไม่เช่นนั้นคุณจะกลายเป็นเป้าของทั้งสองฝ่ายนั้นแทน ในฐานะที่คุณเองก็เป็นพนักงานคนหนึ่งเหมือนกัน ภาระในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของเพื่อนร่วมงานที่อริกันนั้นไม่ใช่หน้าที่หลักของคุณ ถ้าเรื่องมันชักจะบานปลายใหญ่โต จนคุณจนปัญญาที่จะแก้ไข ก็ลองเข้าหาหัวหน้างานหรือผู้ที่มีอำนาจในการจัดการจะดีกว่า ด้วยตำแหน่งหรืออำนาจของเขานั้นสามารถเข้ามาจัดการปัญหาได้ดีกว่าพนักงานด้วยกันเอง

 

ที่มา Sanook.com