นายจ้างเรียกไปคุย บอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี องค์กรจำเป็นต้องลดตำแหน่งงาน แต่ไม่ได้บอกเลิกจ้างตรงๆ กลับให้เวลา 3 เดือนเพื่อไปหางานใหม่ แล้วค่อยมาเขียนใบลาออกเอง
ฟังดูเหมือนมีทางเลือกแต่พอคิดดีๆ ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า… นี่คือการเลิกจ้างหรือไม่?
ในมุมของน้องบีพลัส ต้องบอกตรง ๆ ว่า เขาไม่ได้อยากให้เราทำงานต่อแล้ว เพียงแต่ใช้ถ้อยคำอ้อม ๆ และผลักให้ลูกจ้างเป็นฝ่าย “ลาออกเอง”
กฎหมายคุ้มครองแรงงาน มาตรา 118 วรรคสอง ให้ความหมายของคำว่า “เลิกจ้าง” ไว้อย่างชัดเจนว่า การกระทำใด ๆ ที่นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไป และไม่จ่ายค่าจ้างให้ไม่ว่าจะเป็นเพราะสัญญาจ้างสิ้นสุด หรือด้วยเหตุอื่นใดรวมถึงกรณีที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้าง เพราะนายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไป สาระสำคัญของกฎหมายไม่ได้ดูแค่ “คำพูดว่าเลิกจ้างหรือไม่” แต่ดูที่ พฤติกรรมและเจตนาของนายจ้าง
วิเคราะห์กรณีนี้ให้ชัด ๆ
-
นายจ้างแจ้งชัดว่า ตำแหน่งนี้จะถูกลด
-
แสดงเจตนาแล้วว่า ไม่ประสงค์ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปในอนาคต
-
เพียงแต่ให้ลูกจ้างไปหางานใหม่ และมาขอลาออกเอง
ในทางกฎหมาย นี่ไม่ใช่การลาออกโดยสมัครใจ แต่เป็นการที่นายจ้างแสดงเจตนาเลิกจ้าง เพียงแค่ไม่พูดตรงๆ เมื่อการแสดงเจตนานั้นได้ส่งไปถึงลูกจ้างแล้ว นายจ้าง ไม่สามารถถอนคำพูดหรือเปลี่ยนความหมายย้อนหลังได้
เมื่อเข้าข่าย “เลิกจ้าง” นายจ้างมีหน้าที่ต้อง
การให้ลูกจ้างเขียนใบลาออกเอง ไม่สามารถตัดสิทธิค่าชดเชยตามกฎหมายได้ ลูกจ้างยังคงมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานครบถ้วน
หากคุณกำลังมองหาระบบเงินเดือนและ HR ที่ครอบคลุม เราขอแนะนำ Bplus HRM - โปรแกรมเงินเดือนครบวงจรสำหรับองค์กรไทย ที่รองรับทั้งแบบโปรแกรมเงินเดือน On-premise หรือโปรแกรมเงินเดือน on Cloud และโปรแกรมเงินเดือนแบบออนไลน์ใช้งานผ่านเว็บ ซึ่งโปรแกรมเงินเดือนสำเร็จรูปอย่าง Bplus HRM ไม่เพียงช่วยลดเวลาและความผิดพลาดในการคำนวณเงินเดือน แต่ยังช่วยบริหารงานบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกระบบที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว สำหรับองค์กรที่ต้องการระบบที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ Bplus HRM คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ สามารถติดต่อขอชมการสาธิตและทดลองใช้ระบบได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Business Plus
สนใจชมสาธิตการใช้งานเพื่อรับสิทธิทดลองใช้
ติดต่อหาเราได้ที่