ในกรณีที่ลูกจ้างขับรถชนคนอื่นและทำให้เกิดความเสียหายหรือบาดเจ็บ นายจ้างอาจต้องร่วมรับผิดในบางสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
1. การกระทำของลูกจ้างเกิดขึ้นในขณะปฏิบัติงาน
หากลูกจ้างกระทำการดังกล่าวในขณะปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง เช่น ขับรถไปส่งของหรือปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ที่นายจ้างมอบหมาย นายจ้างอาจต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้าง ตาม มาตรา 425 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งระบุว่า "นายจ้างต้องรับผิดในผลเสียหายใด ๆ ที่ลูกจ้างได้ก่อขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างที่ปฏิบัติการงานที่ได้รับมอบหมาย" อย่างไรก็ตาม นายจ้างสามารถใช้สิทธิเรียกร้องค่าชดใช้คืนจากลูกจ้างได้หากนายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยในกรณีนี้
2. การกระทำของลูกจ้างไม่เกี่ยวข้องกับงานที่มอบหมาย
หากลูกจ้างขับรถชนคนอื่นในระหว่างที่ไม่ได้ปฏิบัติงาน เช่น ใช้รถไปทำธุระส่วนตัว หรือเบี่ยงเบนออกจากงานโดยไม่ได้รับอนุญาต นายจ้างอาจไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายนั้น เพราะไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำในระหว่างปฏิบัติงาน
3. กรณีรถเป็นของนายจ้าง
ถ้ารถที่ใช้ก่อเหตุเป็นของนายจ้าง แม้ว่าลูกจ้างจะใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เจ้าของรถ (นายจ้าง) อาจถูกฟ้องเรียกร้องตาม มาตรา 437 ซึ่งระบุว่าเจ้าของยานพาหนะอาจต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากการใช้ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ใช้ความระมัดระวังอย่างสมควรแล้ว
สรุป
- นายจ้างต้องร่วมรับผิด หากการกระทำของลูกจ้างเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติงาน หรือ ในขอบเขตของงานที่ได้รับมอบหมาย
- หากเป็นการกระทำส่วนตัวของลูกจ้าง นายจ้างอาจไม่ต้องรับผิด
- ทั้งนี้ แต่ละกรณีจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงและหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินความรับผิดชอบอย่างชัดเจน
ที่มา คลินิกกฎหมายแรงงาน