เมื่อก่อน “พี่สอนน้อง” คือภาพที่เราคุ้นเคยในที่ทำงาน แต่ในยุคที่เทคโนโลยีและวิถีชีวิตเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แนวคิดใหม่อย่าง Reverse Mentorship หรือ “การให้รุ่นน้องเป็นผู้สอนรุ่นพี่” กำลังกลายเป็นแนวทางสำคัญขององค์กรยุคใหม่ที่ต้องการ ลดช่องว่างระหว่างวัย (Generation Gap) และสร้าง การเรียนรู้แบบสองทาง”(Two-Way Learning)
Reverse Mentorship คือการเปิดโอกาสให้ พนักงานรุ่นใหม่ (Millennials หรือ Gen Z) ถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และมุมมองใหม่ ๆ ให้กับ พนักงานรุ่นพี่ หรือผู้บริหาร เช่น เทรนด์ดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือมุมมองของคนรุ่นใหม่ในสังคมและการทำงาน
- ลดช่องว่างระหว่างวัย (Bridging the Generation Gap)
ในองค์กรที่มีทั้ง Gen X, Gen Y, และ Gen Z การเข้าใจความคิดและวิธีทำงานของแต่ละรุ่นเป็นสิ่งท้าทาย การให้รุ่นน้องมีบทบาทสอนรุ่นพี่ จะช่วยให้ทั้งสองฝ่าย แลกเปลี่ยนมุมมองและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พี่เข้าใจน้องมากขึ้น ส่วนน้องก็เห็นคุณค่าของประสบการณ์พี่มากขึ้น
- เพิ่มความเข้าใจในเทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ๆ
คนรุ่นใหม่มักคล่องแคล่วกับเทคโนโลยี โซเชียลมีเดีย และเทรนด์ดิจิทัล การเปิดพื้นที่ให้รุ่นน้องสอนเรื่องเหล่านี้กับผู้บริหารหรือรุ่นพี่ ช่วยให้องค์กร ปรับตัวได้ไว และตามโลกทัน
เช่น การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อทำการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลผ่านระบบ AI การสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างมืออาชีพ
- สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (Continuous Learning Culture)
เมื่อทุกคนในองค์กรสามารถ “เป็นทั้งผู้สอนและผู้เรียน” ได้พร้อมกัน จะเกิดวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง พนักงานไม่รู้สึกว่าความรู้มีแค่จากบนลงล่าง แต่สามารถ เรียนรู้จากกันและกันได้ทุกระดับ องค์กรที่มีวัฒนธรรมนี้จะไม่หยุดนิ่ง แต่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ
- เพิ่มความหลากหลายทางความคิด (Diversity of Thought)
Reverse Mentorship ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับผู้บริหารและทีมงาน เพราะคนรุ่นใหม่มักมองโลกในมุมที่แตกต่าง กล้าเสนอแนวคิดใหม่ ๆ และเข้าใจความต้องการของคนรุ่นใหม่ในตลาดแรงงานและผู้บริโภค การรวมพลังของ “ประสบการณ์จากรุ่นพี่” และ “มุมมองสดใหม่จากรุ่นน้อง” คือการสร้างทีมที่มี ความคิดสร้างสรรค์และสมดุลระหว่างอดีตกับอนาคต
ตัวอย่างการทำ Reverse Mentorship ในองค์กร
- จับคู่ Mentor รุ่นพี่ กับ Mentee รุ่นน้อง แล้วสลับบทบาทให้รุ่นน้องเป็น “ผู้สอน” ด้านเทคโนโลยีหรือเทรนด์ใหม่ ๆ
- จัด Workshop แลกเปลี่ยนความรู้ข้ามรุ่น เช่น “เจนไหนก็เข้าใจกันได้”
- ใช้ Social Media เป็นเครื่องมือเรียนรู้ร่วมกัน เช่น ให้ทีม Gen Z นำเสนอไอเดียสร้างคอนเทนต์ให้ผู้บริหารดู
- สร้างวัฒนธรรมไม่แบ่งรุ่นในองค์กร ให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกิดขึ้นได้อย่างเท่าเทียม
Reverse Mentorship ไม่ได้แค่เปลี่ยนบทบาทของ “คนสอน” และ “คนเรียน” แต่มันคือการเปลี่ยน วิธีคิดขององค์กร จากที่เคยแบ่งแยกตามวัย กลายเป็นการ เชื่อมโยงกันด้วยความรู้ ความเข้าใจ และความเคารพซึ่งกันและกัน องค์กรที่เปิดใจรับ Reverse Mentorship จะได้มากกว่าแค่ทักษะใหม่ ๆ แต่ยังได้ “วัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน” ที่จะทำให้องค์กรเติบโตไปพร้อมกับคนทุกเจเนอเรชัน
หากคุณกำลังมองหาระบบเงินเดือนและ HR ที่ครอบคลุม เราขอแนะนำ Bplus HRM - โปรแกรมเงินเดือนครบวงจรสำหรับองค์กรไทย ที่รองรับทั้งแบบโปรแกรมเงินเดือน On-premise หรือโปรแกรมเงินเดือน on Cloud และโปรแกรมเงินเดือนแบบออนไลน์ใช้งานผ่านเว็บ ซึ่งโปรแกรมเงินเดือนสำเร็จรูปอย่าง Bplus HRM ไม่เพียงช่วยลดเวลาและความผิดพลาดในการคำนวณเงินเดือน แต่ยังช่วยบริหารงานบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกระบบที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว สำหรับองค์กรที่ต้องการระบบที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ Bplus HRM คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ สามารถติดต่อขอชมการสาธิตและทดลองใช้ระบบได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Business Plus
สนใจชมสาธิตการใช้งานเพื่อรับสิทธิทดลองใช้
ติดต่อหาเราได้ที่