5 เหตุผล เหตุใด “สมาธิ” จึงสำคัญกับสถานที่ทำงาน

                      สมาธิ คือจุดตั้งต้นของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คน อาทิเช่น ริชาร์ด แบรนสัน ผู้ก่อตั้งธุรกิจกลุ่ม Virgin ก็เป็นหนึ่งคนที่ฝึกเรื่องของสมาธิอยู่เสมอ หรือ เอเรียนน่า ฮัฟฟิงตัน นักเขียนผู้ก่อตั้ง The Huffington Post ที่เป็นทั้งที่ปรึกษาให้กับบริษัทใหญ่ๆ หลากหลายที่ รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ที่มีโปรแกรมการฝึกสมาธิให้กับพนักงานทุกคนเพื่อประโยชน์ในการทำงานและใช้ชีวิตประจำวัน การตั้งต้นง่ายๆ ที่เริ่มจากฝึกสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก ก็ช่วยให้คุณสามารถจดจ่ออยู่กับปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย นี่คือหลากหลายข้อดีที่การฝึกสมาธิจะช่วยให้งานและทีมของคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม

1.ช่วยเรื่องความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ

ถึงแม้จะเป็นการฝึกสมาธิในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีผลรับรองว่าสามารถช่วยในเรื่องของการสร้างความคิดสร้างสรรค์ได้ เพราะการทำสมาธิคือการทำจิตใจให้ว่าง สมองของคุณจะปลอดโปร่งพร้อมที่จะคิดไอเดียใหม่ๆ บริษัท วอลต์ ดิสนีย์ คือหนึ่งในบริษัทที่เริ่มบุกเบิกให้พนักงานในบริษัทได้มีการทำกิจกรรฝึกสมาธิหลังจากที่พวกเค้าพบว่าพนักงานของเขามีจินตนาการและไอเดียที่บันเจิดมากขึ้นหลังจากที่ได้ฝึกสมาธิ

2.ช่วยให้ไอเดียเฉียบคมและเพิ่มความจดจ่อบนเนื้องาน

เป็นเรื่องปกติที่ในออฟฟิศมักจะมีสิ่งที่คอยมาก่อกวนทำลายสมาธิอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยของเพื่อนร่วมงาน เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่คุณจะสามารถจดจ่ออยู่กับงานของคุณได้ มีผลวิจัยพบว่าในช่วงเวลาที่วุ่นวายนี้ เพียงคุณลองทำสมาธิเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็ช่วยให้คุณกลับมาจดจ่อและมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นได้

3.ช่วยขจัดความเครียดได้ดี

เพราะความเครียดมีผลกระทบทั้งกับร่างกายและจิตใจ อันจะนำไปสู่การบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในที่สุด และอาจส่งผลไปถึงจำนวนการลาออกของพนักงานได้ การฝึกสมาธิสม่ำเสมอจะช่วยในเรื่องการลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด นอกจากนี้ยังช่วยลดการทำงานของสมองส่วนที่จะไปส่งเสริมเรื่องการตอบสนองเรื่องของความเครียดอีกด้วย

4.ช่วยสร้างพลังบวก

การจดจ่ออยู่กับปัจจุบันคืออีกหนึ่งวิธีของการฝึกสมาธิที่จะช่วยให้คุณตระหนักรู้ถึงพลังงานลบที่อาจจะกำลังเกิดขึ้น และการที่คุณตระหนักรู้จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ลบๆ เหล่านั้นลง มีหลากหลายงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการฝึกสมาธิช่วยลดในเรื่องของพลังงานลบและสร้างพลังงานบวก

5.ช่วยให้ความคิดไม่ฟุ้งซ่าน วุ่นวาน

ผลการวิจัยแนะนำว่าการฝึกสมาธิจะช่วยควบคุมให้ความคิดของคุณไม่ฟุ้งซ่าน เหตุผลเป็นเพราะขั้นตอนสำคัญของการฝึกสมาธิคือทำจิตใจให้ว่างและจดจ่ออยู่เฉพาะกับปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เหมือนคุณได้หยุดเวลาและตระหนักรู้กับสิ่งที่กำลังอยู่ตรงหน้า

 

ที่มา generali.co.th