ใช้หนี้บริษัทยังไม่หมด จะลาออกได้หรือไม่

          หลายๆบริษัทมีสวัสดิการเงินกู้ยืมสำหรับพนักงาน เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่าย หรือความจำเป็นของลูกจ้าง วันนี้น้องบีพลัสจะพามาดูว่า กรณีที่ลุกจ้างประสงค์จะลาออก แต่มีหนี้สินคงค้าง ยังคืนเงินกู้ไม่ครบ บริษัทจึงไม่อนุมัติให้ลาออก แบบนี้ควรแก้ปัญหาอย่างไร
          การลาออกเป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวของลูกจ้างไม่จำเป็นต้องรอให้นายจ้างอนุมัติ ส่วนการแจ้งล่วงหน้าตามระเบียบบริษัทนั้น เป็นเพียงวิธีปฏิบัติเพื่อให้ลูกจ้างมีระยะเวลาในการจัดการงาน ถ่ายที่งานรวมถึงมีระยะเวลาให้นายจ้างหาคนใหม่มาทำหน้าที่แทนเท่านั้น การที่นายจ้างไม่อนุมัติให้ลาออก จึงทำไม่ได้
          ในมุมของนายจ้างคือ ลูกจ้างลาออกไปแล้วนายจ้างจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างกับจำนวนเงินกู้ที่ยังค้างชำระอยู่ เพราะจะหักออกจากเงินเดือนในงวดสุดท้าย ก็ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 76 ห้ามมิให้นายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด เว้นแต่เป็นการหักเพื่อ(3)ชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือสหกรณ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันกับ สหกรณ์ออมทรัพย์ หรือหนี้ที่เป็นไปเพื่อสวัสดิการที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้างฝ่ายเดียว โดยได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากลูกจ้าง ซึ่งห้ามมิให้หักเกินร้อยละ 10 ของค่าจ้าง และจะหักรวมกันได้ ไม่เกิน 1 ใน 5 ของเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามกำหนดเวลาการจ่ายตามมาตรา 70 เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างเป็นหนังสือ และให้ลูกจ้างลงลายมือชื่อในการให้ความยินยอม ตามมาตรา 77
          ดังนั้น นายจ้างต้องดำเนินการฟ้องร้องตามสัญญากู้เป็นคดีแยกต่างหาก ข้อแนะนำกรณีจะให้ลูกจ้างกู้เงินในทำสัญญากู้ยืมเงินบริษัทควรกำหนดให้ชัดเจนถึงกำหนดการคืนเงินกู้ เช่น ตกลงให้ลูกจ้างผ่อนจ่ายงวดละ xx บาท และหากลูกจ้างประสงค์จะลาออกต้องคืนเงินทั้งหมดเต็มจำนวน นอกจากนี้ยังสามารถตกลงกับลูกจ้างโดยกำหนดในสัญญาหักเงินโบนัสเพื่อชำระหนี้เงินกู้ได้ เพราะไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานมาตรา 76 (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12086/2557)

 

ที่มา คลินิกกฎหมายแรงงาน