เงินสมทบเพิ่มนิด แต่สิทธิ์เพิ่มเยอะ

ทำความรู้จัก การปรับเพดานประกันสังคม คืออะไร?

การปรับเพดานประกันสังคม คือ การที่สำนักงานประกันสังคมมีการปรับ “ฐานเงินสมทบสูงสุด” ที่ใช้คำนวณเงินที่ลูกจ้างและนายจ้างต้องส่งเข้าประกันสังคมในแต่ละเดือน โดยปกติประกันสังคมจะคำนวณจาก ค่าจ้างขั้นต่ำ – ค่าจ้างขั้นสูง (เพดาน) เพื่อให้ระบบยังคงสมดุลเพียงพอสำหรับการดูแลผู้ประกันตนในระยะยาว

เหตุผลหลักในปรับเพดานประกันสังคม คือ

  • ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการเพิ่มขึ้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยกรณีว่างงาน หรือเงินสงเคราะห์ต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจ

  • เพื่อให้กองทุนมีความมั่นคงเพดานเดิมอาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง การปรับเพดานทำให้กองทุนสามารถดูแลผู้ประกันตนได้อย่างยั่งยืน

  • สอดคล้องกับค่าจ้างเฉลี่ยของแรงงานเมื่อรายได้เฉลี่ยของพนักงานเพิ่มขึ้น เพดานประกันสังคมก็จำเป็นต้องปรับตาม เพื่อให้ระบบตอบโจทย์ความเป็นจริงมากขึ้น

          เดิมทีเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินสมทบประกันสังคมถูกกำหนดไว้ 15,000 บาท ตั้งแต่ปี 2538 เมื่อเศรษฐกิจและค่าครองชีพเปลี่ยนไป รัฐบาลและสำนักงานประกันสังคมจึงเห็นความจำเป็นในการ ปรับเพดานค่าจ้าง เพื่อให้สิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนได้รับมีความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน

การปรับเพดานค่าจ้างและเงินสมทบ

  • มาตรา 33 (ลูกจ้างในระบบ)

    • เดิม เงินสมทบสูงสุด 750 บาท/เดือน (5% ของค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาท)

    • ใหม่ ปรับเพดานค่าจ้างเป็น 20,000–23,000 บาท ทำให้เงินสมทบสูงสุดอยู่ที่ 875–1,150 บาท/เดือน

    • นายจ้างยังต้องสมทบในอัตราเดียวกัน (5%) และรัฐสมทบอีก 2.75%

  • มาตรา 39 และ 40 (ผู้ประกันตนนอกระบบ)

    • มีการปรับอัตราสมทบและสิทธิประโยชน์บางส่วนตามประกาศใหม่ แต่ยังคงเป็นการจ่ายสมทบแบบเหมาจ่ายรายเดือน

สำหรับลูกจ้าง  การปรับเพดานค่าจ้างไม่ใช่เพียงการเพิ่มเงินสมทบ  แต่เมื่อเพดานเพิ่ม สิทธิประโยชน์บางรายการก็มักจะเพิ่มตาม ทำให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้น ถือเป็น “จ่ายเพิ่ม – ได้เพิ่ม” ในระยะยาว

  • เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วยหรือทุพพลภาพ มีการปรับเพิ่มตามฐานค่าจ้างใหม่

  • เงินบำนาญชราภาพ จะสูงขึ้นตามเงินสมทบที่จ่ายเพิ่ม

  • สิทธิการรักษาพยาบาลและสวัสดิการอื่น ๆ มีการปรับปรุงให้ครอบคลุมมากขึ้น

สำหรับนายจ้าง ต้องสมทบเพิ่มต่อพนักงานที่เงินเดือนสูงกว่าเพดานเดิม แต่ช่วยให้พนักงานได้รับสิทธิที่ดีขึ้น เป็นผลบวกต่อสวัสดิการองค์กร และช่วยรักษาพนักงานเก่งๆ เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของแรงงานและลดภาระสังคมในระยะยาว

สิ่งที่ HR ควรเตรียมเมื่อเพดานประกันสังคมถูกปรับ

  • อัปเดตข้อมูลในระบบเงินเดือน (Payroll)

  • แจ้งพนักงานถึงผลกระทบและสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น

  • ตรวจสอบงบประมาณของนายจ้าง

  • ปรับข้อมูลในระบบ HRM ให้ตรงกับเพดานใหม่เพื่อการคำนวณที่ถูกต้อง

การปรับเพดานประกันสังคมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความมั่นคงของกองทุนและปรับให้ทันต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ แม้ว่าจะทำให้ลูกจ้างและนายจ้างส่งเงินสมทบมากขึ้น แต่ก็เป็นการเพิ่มความคุ้มครองและสวัสดิการในระยะยาว ถือเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของชีวิตแรงงานทุกคน

 

 

หากคุณกำลังมองหาระบบเงินเดือนและ HR ที่ครอบคลุม เราขอแนะนำ Bplus HRM - โปรแกรมเงินเดือนครบวงจรสำหรับองค์กรไทย ที่รองรับทั้งแบบโปรแกรมเงินเดือน On-premise หรือโปรแกรมเงินเดือน on Cloud และโปรแกรมเงินเดือนแบบออนไลน์ใช้งานผ่านเว็บ  ซึ่งโปรแกรมเงินเดือนสำเร็จรูปอย่าง Bplus HRM ไม่เพียงช่วยลดเวลาและความผิดพลาดในการคำนวณเงินเดือน แต่ยังช่วยบริหารงานบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกระบบที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว สำหรับองค์กรที่ต้องการระบบที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ Bplus HRM คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ สามารถติดต่อขอชมการสาธิตและทดลองใช้ระบบได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Business Plus

สนใจชมสาธิตการใช้งานเพื่อรับสิทธิทดลองใช้

ติดต่อหาเราได้ที่

 
สนใจโปรแกรมเงินเดือนติดต่อ 092-345-3681 สนใจโปรแกรมเงินเดือนติดต่อ 092-345-3681 สนใจโปรแกรมเงินเดือนติดต่อ 092-345-3681

โปรแกรมลาออนไลน์

โปรแกรมลาออนไลน์