ไขสงสัย ใบสมัครงานเป็นสัญญาจ้างหรือไม่

          ในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง สิ่งสำคัญที่หลายคนเข้าใจคลาดเคลื่อน คือเรื่อง "สัญญาจ้างแรงงาน" ว่าจะต้องมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้นจึงจะถือว่าเป็นสัญญา ซึ่งในความเป็นจริง กฎหมายแรงงานไม่ได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือ เพียงแต่ต้องมีองค์ประกอบสำคัญสองฝ่ายคือ “คำเสนอ” และ “คำสนอง” ก็เพียงพอที่จะถือว่ามีสัญญาเกิดขึ้นแล้ว

องค์ประกอบของสัญญาจ้างแรงงาน ตามหลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การจะเกิดเป็นสัญญาจ้างแรงงานขึ้นได้ จะต้องมี

  • คำเสนอ (Offer) เช่น นายจ้างเสนอว่าจะรับเข้าทำงานในตำแหน่งหนึ่ง พร้อมระบุค่าจ้างหรือเงื่อนไขอื่น

  • คำสนอง (Acceptance) เช่น ลูกจ้างตกลงรับเข้าทำงานในเงื่อนไขที่เสนอ

          เมื่อมีการเสนอและตอบรับ แม้เพียงด้วย วาจา หรือพฤติการณ์ (เช่น มาทำงานจริงในวันนัดหมาย) ก็ถือว่ามีสัญญาแรงงานเกิดขึ้นแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

ใบสมัครงาน ไม่ใช่สัญญา แต่เป็น “คำเสนอฝ่ายเดียว”

ใบสมัครงาน เป็นเอกสารที่ผู้สมัครงานยื่นต่อบริษัทเพื่อเสนอความประสงค์จะเข้าทำงานในตำแหน่งที่เปิดรับ ถือว่าเป็น คำเสนอฝ่ายเดียวจากลูกจ้าง ยังไม่ถือว่าเป็นสัญญาแรงงาน เพราะยังไม่มีการตอบรับจากนายจ้าง

แต่หากนายจ้างรับเข้าทำงาน โดยเฉพาะในกรณีที่ ระบุเงื่อนไขต่าง ๆ ไว้ในใบสมัครงาน เช่น

  • ค่าจ้างที่ระบุไว้ 50,000 บาท

  • การจัดสวัสดิการ เช่น บ้านพัก ประกันชีวิต

  • การรับภาระภาษีแทนพนักงาน

เมื่อมีการตอบรับเข้าทำงานแล้ว ข้อความในใบสมัครงานเหล่านั้นจะถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างแรงงานทันที เว้นแต่จะมีการตกลงเป็นอย่างอื่นในภายหลัง

ทำไมควรทำสัญญาให้ชัดเจน แม้ไม่จำเป็นต้องเขียน

          ถึงแม้กฎหมายจะไม่บังคับว่าต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร แต่การมีเอกสารเป็นทางการ เช่น สัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร จะช่วยป้องกันปัญหาข้อพิพาทได้ในอนาคต ทั้งในเรื่องค่าจ้าง ลักษณะงาน ชั่วโมงการทำงาน หรือสวัสดิการ

 

ที่มา กฎหมายแรงงาน