ปัญหาปวดหัว มนุษย์เงินเดือน .... ยืมเงินมากกว่า 2000 ต้องทำสัญญา

          ยืมเงินมากกว่า 2000 ต้องทำสัญญา มีสัญญาการกู้ยืมเงินเป็นลายลักษณ์อักษร มีลายเซ็นผู้กู้ในสัญญา หากไม่มีหลักฐานหรือสัญญา จะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้ แม้ว่าหนี้นั้นจะชอบด้วยกฎหมายก็ตาม (ป.พ.พ.มาตรา653) และเอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงิน ต้องมีองค์ประกอบ ดังนี้

  1. วันที่ที่ทำสัญญากู้เงิน
  2. ชื่อ ผู้ขอกู้เงินและผู้ให้กู้เงิน
  3. จำนวนเงินที่กู้
  4. กำหนดชำระ
  5. ผู้กู้ยืมต้องลงลายมือชื่อ


และสิ่งสำคัญที่ต้องระวังในการกู้ยืม

  • ตรวจสอบจำนวนเงิน และทำความเข้าใจเนื้อหาในสัญญาก่อนเซ็นสัญญาทุกครั้ง
  • ห้ามลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่าเด็ดขาด หรือสัญญาที่มีการเว้นเว้นช่องว่างผิดปกติ เนื่องจากผู้ให้กู้อาจจะเติมข้อความหรือเนื้อหาอื่นๆ ในสัญญาหลังจากที่เราเซ็นชื่อไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญญาในอนาคตได้
  • ไม่ควรนำโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับการทำประโยชน์ในที่ดิน (น.ส.3) ไปให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน
  • สัญญาต้องทำอย่างน้อย 2 ฉบับ โดยให้ผู้กู้ยืมถือไว้ด้วย 1 ฉบับ
  • ในสัญญาควรมีลายเซ็นพยานฝ่ายผู้กู้ยืมอย่างน้อย 1 คน
  • การชำระหนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ต้องขอรับใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการรับเงินซึ่งมีลายมือชื่อผู้ให้กู้ยืมลงกำกับด้วยทุกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าได้ชำระหนี้แล้ว
  • เมื่อชำระหนี้ทั้งหมดต้องขอสัญญากู้คืนจากผู้ให้กู้ยืมด้วย 

 

         บางองค์กรอาจมีการกู้ยืมเงิน เป็นรูปแบบของสวัสดิการหรือบริการที่บริษัทหรือองค์กรมีให้แก่พนักงาน เป็นทางเลือกที่มีประโยชน์สำหรับพนักงานที่ต้องการเงินสดในกรณีฉุกเฉินหรือในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ การกู้ยืมเงินในที่ทำงานมักมีลักษณะ

  1. ระยะเวลาคืนยืม ระยะเวลาคืนยืมเงินอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท แต่มักจะรวมถึงการหักเงินจากเงินเดือนของพนักงานในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด เช่น 6 เดือนหรือ 12 เดือน

  2. ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม การกู้ยืมเงินในที่ทำงานอาจมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม รายละเอียดเหล่านี้มักจะระบุในข้อตกลงการกู้ยืม

  3. วงเงินสูงสุด องค์กรมักจะกำหนดวงเงินสูงสุดที่สามารถกู้ยืมได้ มากขึ้นอยู่กับข้อตกลงแต่ละองค์กร

  4. วัตถุประสงค์ในการกู้ยืม พนักงานสามารถใช้เงินกู้ยืมเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การซื้อรถ การศึกษาลูกหรือการชำระหนี้

  5. การอนุมัติ การกู้ยืมเงินในที่ทำงานมักจะต้องผ่านกระบวนการอนุมัติที่หน่วยงานหรือแผนกที่เกี่ยวข้อง อนุมัติอาจต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บริหารหรือบุคคลที่รับผิดชอบ

  6. การตรวจสอบเครดิต บางที่ที่จะตรวจสอบประวัติเครดิตก่อนอนุมัติการกู้ยืม เป็นการประเมินความเสี่ยงในการให้เงินกู้

  7. การหักเงิน อาจจะหักเงินที่กู้ยืมจากเงินเดือนของพนักงานเป็นงวดหรือมูลค่าเท่าๆ กันในแต่ละรอบเดือนจนกว่าหนี้จะชำระหมด

 

ที่มา ทนายคู่ใจ