นำส่งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างแล้ว หากพนักงานลดลง

          กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยดูแลและสร้างหลักประกันให้กับลูกจ้างในกรณีที่ประสบเหตุสุดวิสัย เช่น การเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม หรือการเสียชีวิตระหว่างการทำงาน โดยกฎหมายกำหนดให้สถานประกอบการที่มี ลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องเข้าร่วมกองทุนและนำส่งเงินสะสมและเงินสมทบตามอัตราที่กำหนด

ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 หากบริษัทมีลูกจ้างครบ 10 คน จะต้องนำส่งเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามที่กฎหมายกำหนด

หากในเดือนถัดมา คือวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 จำนวนลูกจ้างลดลงเหลือ 8 คน ยังต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนหรือไม่?

คำตอบคือ "ต้องนำส่งต่อไป"
          เนื่องจากบริษัทมีลูกจ้างครบ 10 คน ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็น "วันเริ่มต้นของการบังคับตามกฎหมาย" สำหรับการเข้าร่วมกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างแล้ว การที่จำนวนลูกจ้างลดลงหลังจากวันดังกล่าว ไม่เป็นเหตุให้บริษัทพ้นจากข้อบังคับในการนำส่งเงินกองทุน แต่อย่างใด

          การตีความกฎหมายในกรณีนี้อยู่บนหลักของ "การเข้าเกณฑ์ครั้งแรก" กล่าวคือ หากสถานประกอบการมีลูกจ้างครบ 10 คนในวันที่เริ่มบังคับใช้ หรือในช่วงใดช่วงหนึ่งตามปีงบประมาณ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยการนำส่งเงินเข้ากองทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภายหลังจำนวนลูกจ้างจะลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ก็ตาม เว้นแต่กรณีที่กิจการมีการเลิกจ้างทั้งหมด หรือยุติกิจการโดยสิ้นเชิง ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอีกลักษณะหนึ่ง

  • นายจ้างควรมีระบบบริหารจัดการข้อมูลลูกจ้างที่ชัดเจน และติดตามการเปลี่ยนแปลงจำนวนพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

  • เมื่อลูกจ้างถึง 10 คน ต้องดำเนินการนำส่งเงินเข้ากองทุนทันที เพื่อป้องกันการละเลยที่อาจนำไปสู่การฝ่าฝืนกฎหมาย และถูกลงโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน

  • หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานะหรือขั้นตอนการนำส่งเงิน สามารถติดต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อขอคำแนะนำได้

 

ที่มา กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน