Burnout Syndrome หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นภาวะที่เกิดจากความเครียดและความกดดันในงานที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน จนทำให้บุคคลรู้สึกหมดแรง ไม่มีพลังงาน และขาดความสนใจในการทำงาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ
ผู้ที่ประสบภาวะหมดไฟในการทำงานมักมีลักษณะอาการต่อไปนี้:
- ความเครียดจากงาน – รู้สึกว่าภาระงานมีปริมาณมาก หนักเกินไป ซับซ้อน หรือต้องทำงานภายใต้ความกดดันด้านเวลา
- ขาดการควบคุม – ไม่มีอำนาจตัดสินใจในงานของตัวเอง หรือไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รู้สึกไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม – ไม่ได้รับรางวัล การยอมรับ หรือผลตอบแทนที่สอดคล้องกับความทุ่มเทและ effort ที่ลงไป
- รู้สึกโดดเดี่ยวหรือถูกตัดขาด – รู้สึกว่าไม่มีตัวตนในองค์กร ขาดการยอมรับจากทีม หรือไม่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร
- ความไม่ยุติธรรมและขาดความไว้วางใจ – รู้สึกว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ขาดความเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมงานหรือผู้บริหาร
- ความขัดแย้งระหว่างค่านิยมส่วนตัวกับองค์กร – ระบบการทำงานหรือวัฒนธรรมองค์กรไม่สอดคล้องกับความเชื่อหรือเป้าหมายในชีวิตของตนเอง
สัญญาณก่อนมีภาวะหมดไฟ
ระยะเวลาก่อนหมดไฟในการทำงานนั้นจะแบ่งออกได้ 5 ระยะ ดังนี้
- ระยะฮันนีมูน (the honeymoon) ช่วงเริ่มงานซึ่งคนทำงานตั้งใจและเสียสละเพื่องานเต็มที่ พร้อมปรับตัวให้เข้ากับองค์กร
- ระยะรู้สึกตัว (the awakening) เมื่อเวลาผ่านไป คนทำงานเริ่มรู้สึกว่าความคาดหวังของตัวเองอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง เริ่มรู้สึกว่างานไม่ตอบสนองกับความต้องการทั้งในแง่การได้รับค่าตอบแทน และการเป็นที่ยอมรับ อาจรู้สึกว่าชีวิตดำเนินอย่างผิดพลาด และไม่สามารถจัดการได้ ทำให้เกิดความคับข้องใจและเหนื่อยล้า
- ระยะไฟตก (brownout) รู้สึกเหนื่อยล้าเรื้อรังและหงุดหงิดง่ายขึ้นอย่างชัดเชน ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมเพื่อหนีความคับข้องใจ เช่น ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ดื่มสุรา ส่งผลให้ความสามารถในการทำงานลดลง อาจเริ่มมีการแยกตัวจากเพื่อนร่วมงาน
- ระยะหมดไฟเต็มที่ (full scale of burnout) หากช่วงไฟตกไม่ได้รับการแก้ไข จะเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง มีความรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว สูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป มีอาการของภาวะหมดไฟเต็มที่
- ระยะฟื้นตัว (the phoenix phenomenon) หากได้มีโอกาสผ่อนคลาย ได้พูดคุยกับคนที่ไว้ใจและให้กำลังใจ รวมถึงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ จะสามารถกลับมาปรับตัวเองและความคาดหวังต่องานให้ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น รวมถึงสามารถปรับแรงบันดาลใจ และเป้าหมายในการทำงานด้วย
5 วิธีจัดการ Burnout Syndrome
การจัดการกับภาวะหมดไฟในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณกลับมามีแรงบันดาลใจและพลังงานในการทำงานอีกครั้ง น้องบีพลัสจะพามาดู 5 วิธีจัดการภาวะหมดไฟ วิธีเหล่านี้จะช่วยลดความเครียดและฟื้นฟูพลังงานในการทำงาน ทำให้คุณสามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
- นอนหลับพักผ่อนให้เป็นเวลา อย่าเสียเวลาไปกับความกังวลในเรื่องงาน จัดตารางเวลาการนอนหลับให้เพียงพอและตรงเวลาในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงการเสียเวลากับความกังวลเรื่องงานก่อนนอน พยายามผ่อนคลายและทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบก่อนนอน
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้รับการบำรุงและชุ่มชื่น
- ลดความเครียดลง หากิจกรรมทำนอกเวลา ฟังเพลง ดูหนัง ออกกำลังกาย เป็นไปได้ลาพักร้อนเป็นระยะเวลาสั่นๆ หาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบนอกเวลางาน เช่น ฟังเพลง ดูหนัง หรือออกกำลังกาย ลาพักร้อนเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อผ่อนคลายและฟื้นฟูพลังงาน
- ปรับทัศนคติในการทำงาน ทำความเข้าใจในเนื้องาน และองค์กรที่ทำงานด้วย ทำความเข้าใจในเนื้องานและวัตถุประสงค์ของงานที่ทำอยู่ ปรับเปลี่ยนมุมมองให้มองเห็นความสำคัญและคุณค่าของงาน รวมถึงการทำงานร่วมกับองค์กร
- เปิดใจให้กับคนรอบข้าง อย่าลังเลที่จะปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างาน หลีกเลี่ยงคนที่มีความคิดในแง่ลบ อย่าลังเลที่จะพูดคุยและปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานเกี่ยวกับความเครียดและความกังวลที่เกิดขึ้น หลีกเลี่ยงคนที่มีทัศนคติในแง่ลบและพยายามมีสังคมที่สนับสนุนและเข้าใจ
ที่มา โรงพยาบาลรามคำแหง
Bplus HRM โปรแกรมคำนวณเงินเดือน ตัวช่วยมือ 1 ของ HR
ระบบเงินเดือน Bplus HRM ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำกว่า 15,000+ แห่ง ด้วยจุดเด่น ระบบ Hybrid Cloud ทำงานทั้ง On-Premise เพื่องานคำนวณเงินเดือน และในการขอลา อนุมัติแบบออนไลน์ ส่งใบจ่ายเงินเดือน พนักงานสามารถเปิดดูผ่านมือถือ ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมทีมสนับสนุนมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการใช้งาน
