นายจ้างพึงระวัง ... ห้ามเลือกปฎิบัติเพราะเหตุเป็น LGBTQ+

          ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานและอาชีพ ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561 หลังจากครบกำหนด 12 เดือนนับจากวันที่ให้สัตยาบัน อนุสัญญานี้เป็นหนึ่งในแปดอนุสัญญาหลัก (Fundamental Conventions) ของ ILO ที่มุ่งเน้นการขจัดการเลือกปฏิบัติในสถานที่ทำงาน เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคในโอกาสและการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันในการจ้างงานและอาชีพ

          อนุสัญญาฉบับที่ 111 มีเป้าหมายเพื่อป้องกันและขจัดการเลือกปฏิบัติในทุกด้านของการจ้างงานและอาชีพ โดยกำหนดให้ประเทศสมาชิกที่ให้สัตยาบันต้อง:

  1. กำหนดนโยบายระดับชาติ เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคในโอกาสและการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันในการจ้างงานและอาชีพ

  2. ขจัดการเลือกปฏิบัติ ที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น เชื้อชาติ สีผิว เพศ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง สัญชาติ สถานภาพทางสังคม หรือฐานอื่น ๆ ที่กำหนดเพิ่มเติมโดยประเทศสมาชิกผ่านการปรึกษาหารือกับองค์กรนายจ้างและลูกจ้าง

  3. ส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการยอมรับและปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว

          การเลือกปฏิบัติในที่นี้ หมายถึง การแบ่งแยก การกีดกัน หรือการลำเอียงที่ส่งผลกระทบต่อความเท่าเทียมในโอกาสหรือการปฏิบัติในการจ้างงาน เช่น การปฏิเสธการจ้างงาน การเลิกจ้าง การจำกัดโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง หรือการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในสถานที่ทำงาน

          อนุสัญญาฉบับที่ 111 ครอบคลุมการเลือกปฏิบัติที่อาจเกิดจาก “ฐานอื่น ๆ” ที่ประเทศสมาชิกสามารถกำหนดเพิ่มเติมได้ ซึ่งในบริบทของประเทศไทย การเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) สามารถตีความได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกปฏิบัติที่ต้องถูกขจัดการจ้างงานและอาชีพ ตามที่ระบุใน พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ซึ่งกำหนดให้ “เพศ” ครอบคลุมถึงบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ 

ตัวอย่างเช่น การปฏิเสธการจ้างงานหรือการเลื่อนตำแหน่งเพียงเพราะรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของบุคคล อาจถูกมองว่าเป็นการฝ่าฝืนหลักการของอนุสัญญานี้ รวมถึงกฎหมายภายในของประเทศไทย เช่น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 27 ที่ห้ามการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องเพศ

          กฎหมายแรงงานไทยห้ามเลือกปฎิบัติเฉพาะ "ชาย-หญิง" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าจ้าง หรือสภาพการจ้างฯ เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานไม่อาจปฎิบัติเช่นนั้นได้

นายจ้างควรมีแนวทางที่ดีในการจัดการ เพื่อ ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฉบับที่ 111 และกฎหมายภายในของประเทศไทย

  • กำหนดนโยบายที่ชัดเจน ออกข้อบังคับภายในที่ห้ามการเลือกปฏิบัติในทุกด้าน รวมถึงรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ

  • อบรมพนักงาน สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความหลากหลายและการยอมรับในสถานที่ทำงาน

  • จัดตั้งกลไกการร้องเรียน มีช่องทางให้ลูกจ้างสามารถร้องเรียนกรณีถูกเลือกปฏิบัติได้อย่างปลอดภัย

  • ปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ในการจ้างงาน เลื่อนตำแหน่ง และให้สวัสดิการ โดยยึดหลักคุณสมบัติและผลงาน ไม่ใช่รสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ

 

ที่มา กฎหมายแรงงาน