นายจ้างกำหนดวันพักร้อนให้ลูกจ้าง แต่ลูกจ้างเลือกมาทำงานในวันดังกล่าว และนายจ้างไม่ทักท้วงแถมยังมอบหมายงานให้ทำ สถานการณ์นี้ก่อให้เกิดคำถามว่า นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับการทำงานในวันหยุดหรือไม่ ?
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 30 กำหนดว่านายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดพักร้อนประจำปีอย่างน้อย 6 วันทำการ โดยวันหยุดพักร้อนนี้เป็นสิทธิของลูกจ้างที่ได้รับเพื่อพักผ่อนจากการทำงาน และนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดพักร้อนให้ตามปกติ หากนายจ้างกำหนดวันพักร้อนให้ลูกจ้างแล้ว ลูกจ้างมีสิทธิเลือกใช้หรือไม่ใช้สิทธิในวันนั้นได้ แต่ถ้าลูกจ้างเลือกมาทำงานในวันพักร้อนที่กำหนดไว้ และนายจ้างยอมรับการทำงานนั้น อาจเกิดคำถามถึงภาระหน้าที่ของนายจ้างในการจ่ายค่าจ้างเพิ่มเติม
เมื่อลูกจ้างมาทำงานในวันพักร้อน และนายจ้างไม่ทักท้วงแถมยังสั่งงานให้ทำ
-
การยอมรับโดยปริยายของนายจ้าง
การที่นายจ้างไม่ทักท้วงเมื่อลูกจ้างมาทำงาน และยังมอบหมายงานให้ทำ อาจถือว่านายจ้างยอมรับหรืออนุญาตให้ลูกจ้างทำงานในวันนั้นโดยปริยาย ซึ่งอาจส่งผลให้วันพักร้อนที่กำหนดไว้กลายเป็นวันทำงานปกติหรือวันหยุดที่ลูกจ้างทำงาน
-
การทำงานในวันหยุดตามกฎหมาย
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 29 และ 62 หากลูกจ้างทำงานในวันหยุด (รวมถึงวันหยุดพักร้อนที่นายจ้างกำหนด) นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับการทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างในวันทำงานปกติ ดังนั้น หากนายจ้างยอมให้ลูกจ้างทำงานในวันพักร้อน โดยไม่มีการทักท้วงและมอบหมายงานให้ทำ นายจ้างอาจต้องจ่ายค่าจ้างในอัตราวันหยุด
ในกรณีนี้ หากนายจ้างไม่ทักท้วงเมื่อลูกจ้างมาทำงาน และยังสั่งงานให้ทำ นายจ้างอาจต้องรับผิดชอบ
-
ค่าจ้างสำหรับวันหยุด
เนื่องจากวันพักร้อนเป็นวันหยุดที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างตามปกติ หากลูกจ้างมาทำงานและนายจ้างยอมรับการทำงานนั้น นายจ้างอาจต้องจ่ายค่าจ้างเพิ่มเติมในอัตราสำหรับการทำงานในวันหยุด (ไม่น้อยกว่าสองเท่าของค่าจ้างปกติ) ตามที่กฎหมายกำหนด
-
การนับวันพักร้อน
หากลูกจ้างทำงานในวันพักร้อนที่กำหนดไว้ และนายจ้างยอมรับการทำงานนั้น อาจตีความได้ว่าวันพักร้อนนั้นไม่ได้ถูกใช้จริง ดังนั้น ลูกจ้างอาจมีสิทธิเรียกร้องให้จัดวันพักร้อนใหม่ทดแทนวันดังกล่าว หรือให้สะสมวันพักร้อนไว้ใช้ในอนาคต ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันในสัญญาจ้างหรือระเบียบของบริษัท
ข้อควรระวังสำหรับนายจ้างและลูกจ้าง
สำหรับนายจ้าง
-
แจ้งเงื่อนไขวันพักร้อนให้ชัดเจน
นายจ้างควรกำหนดนโยบายเกี่ยวกับวันพักร้อนให้ชัดเจน เช่น หากลูกจ้างมาทำงานในวันพักร้อนโดยไม่ได้รับอนุญาต จะไม่นับเป็นการทำงานในวันหยุด หรือต้องขออนุญาตล่วงหน้า
-
ทักท้วงทันที
หากนายจ้างไม่ต้องการให้ลูกจ้างทำงานในวันพักร้อน ควรทักท้วงหรือแจ้งให้ลูกจ้างหยุดงานทันทีเมื่อพบว่าลูกจ้างมาทำงาน เพื่อป้องกันการตีความว่านายจ้างยอมรับการทำงาน
-
บันทึกการอนุญาตทำงาน
หากอนุญาตให้ลูกจ้างทำงานในวันพักร้อน ควรมีเอกสารหรือบันทึกยืนยันว่าเป็นการตกลงร่วมกัน เพื่อป้องกันข้อพิพาทในอนาคต
สำหรับลูกจ้าง
-
แจ้งความประสงค์ล่วงหน้า
หากต้องการทำงานในวันพักร้อน ควรแจ้งนายจ้างล่วงหน้าและตกลงกันให้ชัดเจนว่าจะได้รับค่าจ้างในอัตราใด หรือวันพักร้อนจะถูกนับหรือไม่
-
เก็บหลักฐานการทำงาน
ควรเก็บหลักฐานการทำงานในวันพักร้อน เช่น อีเมลมอบหมายงาน บันทึกเวลาเข้า-ออก หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดข้อพิพาท
-
ทำความเข้าใจสิทธิของตน
ลูกจ้างควรศึกษาเงื่อนไขวันพักร้อนในสัญญาจ้างหรือระเบียบของบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสิทธิครบถ้วนตามกฎหมาย
ที่มา กฎหมายแรงงาน