ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีซื้อต้องห้าม

1. หลักการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

กิจการที่เสีย VAT : ม.77/2

  1. ขายสินค้าในราชอาณาจักรโดยผู้ประกอบการ
  2. ให้บริการในราชอาณาจักรโดยผู้ประกอบการ
  3. นำเข้าสินค้าโดยผู้นำเข้า

กิจการที่ไม่อยู่ในบังตับต้องเสีย VAT (OUT OF SCOPE) : ม. 77 /3

  1. กิจการที่อยู่ในบังดับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  2. กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
  3. กิจการนอกเหนือจาก ม.77/2

กิจการที่ยกเว้น VAT : ม.81

  1. การขายสินค้าที่มิใช่การส่งออกและการให้บริการบางกรณี
  2. การนำเข้าสินค้าบางกรณี

ผู้มีหน้าที่เสีย VAT: : ม.82, ม.82/1

  1. ผู้ประกอบการ : ม.82(1) 
    • บุคคลซึ่งซายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ......ม.77 / 1 (5)
  2. ผู้นำเข้า: ม.82(2)
  3. บุคคลที่กฎหมายกำหนด: ม.82/1
    • เช่น ตัวแทนของผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร

NOTE! ม. 82/4

2. จุดความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Tax point)

  • ความรับผิดสำหรับการขายสินค้า
    • มาตรา 78 (1)(2)(3)(4) หรือ (5)
    • มาตรา 78/3 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 189
  • ความรับผิดสำหรับการให้บริการ
    •  มาตรา 78/1 (1)(2)(3) หรือ (4)
    • มาตรา 78/3 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 189
  • ความรับผิดสำหรับการนำเข้า
    • มาตรา 78/2
Tax point การขายสินค้า

กิจกรรม VAT

ความรับผิดในการเสีย VAT
  • ขายเสร็จเด็ดขาด, สัญญาจะขาย
  • เช่าซื้อ/ขายผ่อนชำระที่กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อ
  • การฝากขายที่เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งประกาศอธิบดี (ฉบับที่ 8)
  • การส่งออก
  • การขายกระแสไฟฟ้า น้ำ ประปาสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง
  • การขายสินค้าด้วยเครื่องอัตโนมัติ
  • กรณีจำหน่าย จ่าย โอนสินค้าโดยไม่ค่าตอบแทน
  • กรณีนำสินค้าไปใช่ในกิจการอื่น
  • กรณีมีสินค้า/ทรัพย์สินในวันเลิกกิจการหรือขอถอนหรือถูกเพิกถอนทะเบียน
  • กรณีสินค้าขาดจากรายงาน
  • กรณีรับโอนกรรมสิทธิ์สินค้าที่เคยเสีย VAT อัตรา 0 %
  • เมื่อมีการส่งมอบสินค้า เว้นแต่ ได้โอนกรรม สิทธิ์ /รับชำระราดา / ออกใบกำกับภาษีก่อนการส่งมอบ
  • ตามงวดที่ถึงกำหนดชำระ เว้นแต่ได้รับชำระราคา /ออกใบกำกับภาษีก่อนถึงกำหนดชำระระราดาแต่ละงวด
  • เมื่อตัวแทนส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า เว้นแต่
    • ตัวแทนโอนกรรมสิทธิ์ / รับชำระราคา / ออกใบกำกับภาษีก่อนส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า
    • ตัวแทนนำสินค้าไปใช้
  • เมื่อมีการผ่านพิธีการทางศุลกากร
  • เมื่อรับชำระราคา เว้นแต่มีการออกใบกำกับภาษีก่อนรับชำระราคา
  • เมื่อนำเงินออกจากเครื่องอัตโนมัติ
  • เมื่อส่งมอบสินค้า เว้นแต่มีการโอนกรรมสิทธิ์ก่อนส่งมอบสินค้า
  • เมื่อนำไปใช้
  • เมื่อเลิกกิจการหรือเมื่อขอกอนหรือถูกเพิกถอนทะเบียนแล้วแต่กรณี
  • เมื่อตรวจพบ
  • เมื่อโอนกรรมสิทธิ์สินค้า

 

Tax point การให้บริการ

กิจกรรม VAT

ความรับผิดในการเสีย VAT
  • การให้บริการโดยมีค่าตอบแทน
  • การให้บริการโดยไม่มีค่าตอบแทน
  • การให้บริการที่กระทำในต่างประเทศและใช้บริการนั้นในประเทศไทย
  • การให้บริการด้วยเครื่องอัตโนมัติ
  • การรับชำระด่าบริการด้วยบัตรเครดิต
  • กรณีรับโอนสิทธิในบริการที่เคยเสีย VAT อัตรา 0 %
  • เมื่อรับชำระราคา เว้นแต่มีการออกใบกำกับภาษีก่อนรับชำระราคา
  • เมื่อมีการใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคลอื่น เว้นแต่มีการออกใบกำกับภาษีก่อนใช้ฯ
  • เมื่อชำระราคาค่าบริการ (ผู้จ่ายเงินต้องนำส่ง VAT 7% โดยยื่นแบบ ก.พ.36 ตามมาตรา 83/6 (2))
  • เมื่อนำเงินออกจากเครื่อง
  • เมื่อมีการออกหลักฐานการใช้บัตรเครดิต
  • เมื่อชำระค่าบริการ

 

Tax point การนำเข้า

กิจกรรม VAT

ความรับผิดในการเสีย VAT
  • การนำเข้าสินค้าทุกกรณี
  • กรณีผิดเงื่อนไขเกี่ยวกับสินด้านำเข้าที่จำแนกประเภทไว้ในกาดว่าด้วยของที่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้า
  • เมื่อมีการผ่านพิธีการทางศุลกากร
  • เกิดขึ้นพร้อมกับความรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร

 

3. หลักเกณฑ์การออกใบกำกับภาษี

หลักเกณฑ์ทั่วไป

  • ออกเป็นรายกิจกรรม
  • ออกเป็นรายสถานประกอบการ

กำหนดเวลาในการออก

  • ผู้ประกอบการจดทะเบียน หรือผู้ที่มีสิทธิออกใบกำกับภาษีแทนผู้ประกอบการจดทะเบียน ต้องจัดทำใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 และสำเนาใบกำกับภาษี สำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการทุกครั้ง โดยต้องจัดทำทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลด่าเพิ่มเกิดขึ้น พร้อมทั้งส่งมอบใบกำกับภาษีนั้นให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ

สำเนาใบกำกับภาษี

  • ให้เก็บรักษาไว้ ณ สถานประกอบการที่ออกใบกำกับภาษี เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี (ก.พ.30) หรือวันทำรายงานภาษีขายแล้วแต่กรณี (มาตรา 86)

ผู้มีสิทธิออกใบกำกับภาษี

  • ผู้ประกอบการจดทะเบียน
  • ผู้ประกอบการจดทะเบียนเป็นการชั่วคราว
  • ตัวแทนในราชอาณาจักรของผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร
  • ตัวแทนในราชอาณาจักรของผู้ประกอบการ ที่อยู่ในราชอาณาจักรที่รับฝากขายสินค้า
  • ผู้ขายทอดตลาดที่ไม่ใช่ส่วนราชการ ซึ่งได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียน
  • ประกอบการจดทะเบียนที่เลิกประกอบกิจการแล้ว แต่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร ให้ออกใบกำกับภาษีเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ

ชนิดของใบกำกับภาษี

  • ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ (มาตรา 86/4)
  • ใบกำกับภาษีอย่างย่อ (มาตรา 86/6)
  • ใบกำกับภาษีอย่างย่อที่ออกโดยเครื่องบันทึกการเก็บเงิน (มาตรา 86/6 วรรคห้า)
  • ใบเพิ่มหนี้ (มาตรา 86/9)
  • ใบลดหนี้ (มาตรา 86/10)
  • ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีมูลดำเพิ่มที่ส่วนราชการเป็นผู้ออก (มาตรา 86/14)

4. กรณีที่ไม่ต้องออกใบกำกับภาษี ม.86/8 + ประกาศ VAT #154

กิจการรายย่อย

  • ไม่เคยมีมูลค่าของฐานภาษีในเดือนใดถึง 300,000 บาท
  • มีสถานประกอบการแต่ละแห่งเป็นรถเข็น แผงลอย หรือหน่วยขายที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน
  • ให้บริการทางพิเศษ/ทางหลวงส้มปทาน/บริการสนามบิน

ข้อสังเกต:

  • ขายสินค้า/ให้บริการที่มีมูลค่าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท เว้นแต่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการจะเรียกร้องใบกำกับภาษี
  • จัดทำใบกำกับภาษีอย่างย่องรวบรวมการขายสินค้า/ ให้บริการที่มีมูลด่าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท ในหนึ่งวันทำการเพื่อเป็นเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานภาษีขาย

กรณีที่ไม่ต้องออกใบกำกับภาษี ป.86/2542

  • กรณีจำหน่าย จ่าย โอนสินด้าโดยไม่มีค่าตอบแทน และไม่เรียกเก็บ VATจากผู้ซื้อสินค้า
  • กรณีนำสินค้าไปไซในกิจการที่ไม่ต้องเสีย VAT
  • กรณีนำรถยนต์นั่งหรือรกยนตโดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ไปใช้เป็นทรัพย์สิน
  • กรณีนำสินค้าที่มีไว้เพื่อขายไปใช้กับรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน
  • กรณีมีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ
  • กรณีมีสินค้าคงเหลือ และหรือทรัพย์สินที่มีไว้ในการประกอบกิจการที่ต้องเสีย VAT หรือทั้งกรณีที่ต้องเสีย VAT และที่ไม่ต้องเสีย VAT ณ วันเลิกประกอบกิจการหรือ ณ วันที่ได้รับคำสั่งถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • กรณีให้บริการไม่มีค่าตอบแทน และไม่เรียกเก็บ VAT จากผู้รับบริการ
  • กรณีนำบริการไปไซในกิจการที่ไม่ต้องเสีย VAT
  • *กรณีนำบริการ และหรือนำสินค้าไปใช้เพื่อการรับรอง หรือเพื่อการอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน
  • กรณีนำบริการหรือสินค้าที่มีไว้เพื่อขายไปใช้กับรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน 
  • กรณีการให้บริการที่ไม่นับรวมเป็นมูลค่าของฐานภาษี

5. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป: ม.86/4

  • รายการสาระสำคัญ: ม.86/4(1)-(8)
    1. คำว่า "ใบกำกับภาษี"
    2. ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียกาษี (ผู้ขายสินค้า/ ผู้ให้บริการ)
    3. ชื่อ ที่อยู่ (ผู้ซื้อสินค้า/ ผู้รับบริการ)
    4. หมายเลขลำดับ (running No.)
    5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้า/ บริการ
    6. จำนวนภาษีมูลด่าเพิ่ม (แยกออกจากมูลค่าของสินค้า/ บริการ)
    7. วัน เดือน ปีที่ออกใบกำกับภาษี
    8. ข้อความที่อธิบดีกำหนด: ประกาศ VAT# 39
  • ป.86/2542 ข้อ 4,8,9
  • ข้อความที่อธิบดีกำหนด: ม.86/4(8)
  • ประกาศ VAT# 39 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศ VAT# 199*
    • คำว่า "เอกสารออกเป็นชุด"
    • คำว่า "สาขาที่ออกใบกำกับภาษีคือ"
    • เลขทะเบียนรถยนต์
    • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทย
    • ราคาชายทองรูปพรรณ กับราดาซื้อคืนทองรูปพรรณ
    • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้า/ ผู้รับบริการ
    • สถานประกอบการของผู้ขายสินค้า / ผู้ให้บริการ
    • สถานประกอบการของผู้ซื้อสินค้า / ผู้รับบริการ
  • ชื่อผู้ประกอบการ หรือซื่อสถานประกอบการ หรือซื่อการค้าของสถานประกอบการตามที่ได้จดทะเบียนกาษีมูลด่าเพิ่ม
  • กรณีระบุชื่อ ที่อยู่ไม่ถูกต้องครบกัวนตามที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • กรณีไม่สามารกระบุรายการสินค้าหรือบริการทั้งหมดในใบกำกับภาษี 1 แผ่น
  • มูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
  • จำนวนภาษีมูลด่าเพิ่มมีเศษเป็นจุดทศนิยม: การเสียกาษีและการเครดิต
  • จัดทำเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ แต่ต้องจัดทำเป็นหน่วยเงินตราไทย 

6. ใบกำกับภาษีแบบย่อ: ม.86/6

  • กิจการด้าปลีก: ประกาศ VAT# 32
    • ชายให้แก่ผู้บริโกดโดยตรง มิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อไปเช่น แผงลอย ขายของซ้ำ ขายยา จำหน่ายน้ำมันห้างสรรพสินค้า
  • บริการรายย่อยแก่บุดดลจำนวนมาก เช่น ภัตตาคาร กิจการโรงแรม กิจการซ่อมแซมทุกชนิด โรงภาพยนตร์

ที่มา กองกฎหมาย กรมสรรพากร

 

ภาษีซื้อต้องห้าม คือ ภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนVAT ไม่สามารถนำมาหักออก จากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มหรือนำมาขอคืนภาษีซื้อ [creditภาษีซื้อ] ซึ่งกฎหมายได้กำหนดลักษณะของภาษีซื้อต้องห้าม ไว้ในมาตรา 82/5 แห่งประมวลรัษฎากร สรุปได้ดังนี้

  1. ไม่มีใบกำกับภาษี หรือทำหาย
  2. กรณีใบกำกับภาษีมีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ที่สรรพากรกำหนด
  3. ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ
  4. ภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายเพื่อการรับรอง
  5. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีที่ออกโดยผู้ไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษี
  6. อื่นๆ ภาษีซื้อตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42)
ประเด็น

ห้ามขอคืนและห้ามเป็นค่าใช้จ่าย

❌❌

ห้ามขอคืนแต่เป็นค่าใช้จ่ายได้

ขอคินได้/เครดิตได้

✔✔

1.ใบกำกับภาษี

1.1 ได้รับใบกำกับภาษีในเดือนภาษีอื่น แต่ไม่เกิน 6 เดือน ถัดจากเดือนที่ออกใบกำกับภาษี

   

1.2 ใบกำกับภาษีที่พิสูจน์ได้ว่าได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

   

1.3 ใบเสร็จรับเงินศุลกากรระบุเดือนมกราคมได้รับในเดือนกุมภาพันธ์

   

1.4 ใบกำกับภาษีเป็นชื่อบริษัทแต่ค่าใช้จ่ายในใบกำกับได้รวมของบริษัทในเครือ

   

1.5 ใบกำกับภาษี ไม่มีคำว่า "มหาชน"

   

1.6 บริษัทเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่ได้รับใบกำกับภาษี เป็นชื่อเดิม

   

1.7 ใบกำกับภาษีค่าไฟฟ้า น้ำประปาเป็นชื่อของผู้ให้เช่า แต่ผู้เช่าเป็นผู้จ่าย

   

1.8 ใบกำกับภาษีใช้อักษรย่อ "Ltd."

   

1.9 ใบกำกับภาษีมีรายการมากกว่ากฎหมายกำหนด

   

1.10 คำว่า"ใบกำกับภาษี"ไม่ได้ตีพิมพ์ หรือไม่ได้จัดทำด้วย ระบบคอมพิวเตอร์

   

1.11 ใบกำกับภาษีเป็นเอกสาร ฉบับแรก แต่มีคำว่า "เอกสารออกเป็นชุด"

   

1.12 ใบกำกับภาษีระบุสถานที่ก่อสร้าง

   

1.13 ใบกำกับภาษีแก้ไขรายการราคาต่อหน่วย

   

1.14 ใบกำกับภาษีระบุชื่อผู้ซื้อว่า "สด"

   

1.15 ใบกำกับภาษีไม่ระบุ คำว่า "แขวง"

   

1.16 ใบกำกับภาษีระบุที่อยู่ผู้ซื้อ ไม่ถูกต้องจากเลขที่ 33/48 เป็น 33/45

   

1.17 ใบกำกับภาษีระบุชื่อผู้ซื้อว่า "ประเทศไทย"แต่ไประบุว่า"Thailand"

   

1.18 พิมพ์แก้ไขเลขที่รหัสสาขา

   

1.19 ใบกำกับภาษีตีพิมพ์จากโรงพิมพ์กรอกด้วยคอมพิวเตอร์แต่วันที่เขียนด้วยหมึก

   

1:20 ไม่มีคำว่าภาษีมูลค่าเพิ่มกี่เปอร์เซ็นต์และ ไม่มีลายเซ็นต์ผู้มอบอำนาจ

   

1.21 ใบกำกับภาษีที่ได้รับไม่เกิน 6 เดือนนับแต่เดือนถัดจากเดือนที่ ออกใบกำกับภาษี

   

1.22 ใบกำกับภาษีไม่ระบุ "เลขประจำตัวผู้เสียภาษี"

   
2.สวัสดิการพนักงาน

2.1 เครื่องแบบพนักงาน

   

2.2 จัดให้มีอาหารเครื่องดื่มฟรี

   

2.3 เลี้ยงปีใหม่พนักงานประจำปี

   

2.4 ให้รางวัลแก่ลูกจ้างดีเด่น

   

2.5 ค่าสมาชิกกอล์ฟ ของนิติบุคคล แต่ผู้บริหารนำไปเล่น

   

2.6 บริษัทจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ให้กับรถยนต์พนักงาน

   

2.7 พนักงานป่วยบริษัทซื้อกระเช้าไปเยี่ยมพนักงาน

   
2.8 ซื้อของขวัญให้แก่พนักงาน    
3.ส่งเสริมการขาย

3.1 ค่าใช้จ่ายในการสาริตสินค้า เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร

   

3.2 ซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ให้ลูกค้า

   

3.3 ได้รับเงินสนับสนุนสินค้าที่ซื้อมาจากบริษัทในเครือนำไปจ่าค่าใช้จ่ายต่างๆ

   

3.4 นำสินค้ามาแลก หรือ แจกลูกค้า

   

3.5 แจกตั๋วเครื่องบินให้ลูกค้าที่ขายตามเป้า

   

3.6 นำรถยนต์นั่งมาเป็นรถยนต์สาธิต

   

3.7 ซื้อสินค้ามาแถมให้กับลูกค้า

   

3.8 ค่าใช้จ่ายในการจัดประกวด ปรุงอาหาร

   
4.รถยนต์ที่นั่ง

4.1 ประกอบกิจการให้เช่ารถยนต์นั่ง ภาษีซื้อที่เกิดจากรถยนต์นั่ง

   

4.2 ซื้อรถยนต์กระบะ

   

4.3 ค่าน้ำมันรถกระบะ

   

4.4 ค่าทางด่วน/บัตรทางด่วนของรถยนต์นั่ง

   

4.5 ค่าเช่ารถตู้ที่มีที่นั่งเกิน 10 คน

   

4.6 ค่าเช่ารถยนต์กระบะและสแปชแคป

   
4.7 ค่าบัตรทางด่วน (expressway)    
5.ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายอื่น

5.1 ค่าติดตั้งระบบงานสารารณูปโภค ซึ่งเป็นต้นทุนทางตรงของงานบริการ

   

5.2 ค่าที่พัก อาหาร ของพนักงานที่บริษัทมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด

   

5.3 ให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ หลอดไฟเครื่องโทรศัพท์ เครื่องปรับอากาศลิฟต์ ทีวี ตู้เย็น เตียงนอน ไฟฟ้า ฯลฯ

   

5.4 ค่าก่อสร้างอาคารให้เช่า

   

5.5 ค่าก่อสร้างอาคาร แล้วยกให้แก่ผู้ให้เช่าที่ดิน

   

5.6 การให้บริการเช่าเครื่องบินเหมาลำ

   

5.7 เงินทดรองจ่ายแทนบริษัทในเครือ

   

5.8 ค่าธรรมเนียมการจำหน่ายหุ้น และค่าใช้จ่ายในการระดมทุน

   

5.9 ภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้าง สถานีบริการน้ำมัน

   

5.10 ค่าก่อสร้างระบบบริการส่วนกลาง เช่นระบบไฟฟ้า ระบบรักษาความ-ปลอดภัย ระบบสุขาภิบาล ระบบปรับอากาศ

   

5.11 ค่าก่อสร้างสนามกอล์ฟและอาคาร

   

5.12 ค่าซื้อเนกไท ไวน์ เป็นค่าตอยแทนวิทยากร

   

5.13 ค่าก่อสร้างอาคารจอดรถ แบบกำหนดที่และไม่ต้องเสียค่าเช่าที่จอดรถจัดให้รถจอดบนอาคารที่เช่า

   

5.14 ติดตั้งลิฟตีเพื่อใช้กับกิจการ ให้เช่าอพาร์ตเม้นต์ใช้ในกิจการยกเว้นภาษี-มูลค่าเพิ่ม

   
6.การนำเข้าและส่งออก

6.1 ภาษีซื้อจากการนำเข้าเครื่องจักรเมื่อผ่านพิธีการศุลกากร

   

6.2 ภาษีซื้อจากการซื้อสินค้า เพื่อการส่งออก

   

6.3 บริษัทในต่างประเทศได้ซื้อเครื่องจักรและได้นำเข้ามาให้บริษัทในไทยใช้ เมื่อจบโครงการจะต้องส่งเครื่องจักรคืน ภาษีซื้อ จากการนำเข้าเครื่องจักร

   

6.4 ใบเสร็จรับเงินศุลกากรระบุชื่อ เป็นผู้จ่ายเงินแต่ไม่ได้เป็นผู้นำเข้าเครื่องจักรมาใข้ในกิจการของตนเอง

   

ที่มา เพจ 101 BuncheeTax