ถ้าคุณเคยดู The Wolf of Wall Street แล้วคิดว่าการขายของมันต้องตะโกนเสียงแหบ ปิดดีลให้ทันก่อนน้ำลายแห้ง…คุณเข้าใจถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะหมาป่ายุคใหม่ ไม่ต้องตะโกนเสียงดัง แค่กระซิบว่า “฿1,497” แทน “฿1,500” ลูกค้าก็พร้อมรูดบัตร โดยไม่ถามภรรยา (และบางคนไม่มีภรรยาด้วยซ้ำ เพราะซื้อของเยอะไปหน่อย) นี่คือ คัมภีร์ของหมาป่านักขาย ที่ไม่ได้ขายฝัน แต่เป็น 24 เทคนิคตั้งราคา + 20 คอมโบประโยคจิตวิทยา ที่เปลี่ยนสินค้าธรรมดา ให้ขายดีแบบไม่มีใครกล้าต่อ

24 คอมโบจิตวิทยาตัวเลขในการตั้งราคาสินค้า

กลยุทธ์ราคาแบบไม่ให้ลูกค้า “คิดเยอะ” แต่ทำให้ “รู้สึกคุ้ม”

1. 99 จบสวย แต่ไม่จบจริง

฿199 ฟังดูดีกว่า ฿200 แม้จะห่างกันบาทเดียว แต่มันเหมือนลดลงเป็นสิบ สมองตีความว่า “ยังไม่ถึงสองร้อย”  ใช้ได้ดีกับสินค้า mass ที่เน้นขายปริมาณ

2. .00 = จริงจัง

ราคาเต็มแบบ “฿500.00” ให้ความรู้สึกเป็นทางการ เหมาะกับสินค้าแพงหรือเชิงธุรกิจ  ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ Professional

3. .95 = มีชั้นเชิง

“฿149.95” เหมือนตั้งมาด้วยสูตรเฉพาะ คิดละเอียด ลูกค้ารู้สึกว่าราคานี้ถูก Optimize แล้ว เหมาะกับสายเทคหรือ Gadget

4. ลดจำนวนหลักให้รู้สึกดี

฿999 ดีกว่า ฿1,000 เพราะเลขเปลี่ยนจาก “หลักพัน” เป็น “หลักร้อย” สมองเหมือนลดไปเยอะ ใช้กับสินค้าที่ราคาแตะหลักพันแบบนิดเดียว

5. เลขคี่ = ดูลดหย่อน

฿87 ฟังดูดีกว่า ฿86 — เพราะเลขคี่ให้ความรู้สึก “ลดแล้ว” “ไม่กลม” “ไม่ฟาดกำไรเกินไป” ใช้กับของกิน/ของใช้รายวัน

6. เลขกลม = แบรนด์หรู

฿300, ฿1,000 หรือ ฿10,000 ดูพรีเมียม สมองไม่รู้สึกว่าเขากำลัง “ขาย” เหมาะกับแบรนด์ Luxury

7. เลข 7 = ราคามหาชน

฿97, ฿77 หรือ ฿47 มีพลังแฝงบางอย่าง ทำให้สินค้าดู “ลดราคา” แม้ไม่เคยลด ใช้กับโปรโมชั่นหรือสินค้าจับตลาดกลาง

8. .88 = ราคามิตรภาพ

“฿88.88” เป็นราคาที่ใช้บ่อยในร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะ Shopee / Lazada ให้ความรู้สึก Flash Sale ตลอดเวลา

9. 9999 = Premium แต่ไม่ถึงขั้น

฿9,999 ดูพรีเมียมมาก แต่ยังไม่ “เหยียบหมื่น” เหมาะกับสินค้าเทคฯ ที่เน้นความคุ้มค่า สมองรู้สึกว่า “นี่คือ Top Tier ที่ยังจับต้องได้”

10. เลขซ้ำ = จำง่าย

฿444, ฿555 เป็นราคาที่ติดหู ติดตา เหมาะกับแคมเปญสั้นๆ เหมาะกับพวกแพ็กเกจโปร หรือเซตของขวัญ

11. ลดแต่พองาม = เชื่อถือได้

฿349 → ฿319 สมองรับรู้ว่า “ลดจริง ไม่ล่อหลอก” ต่างจาก “฿349 → ฿199” ที่ดู fake  ใช้กับแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ

12. เลขจิตวิทยา "3"

฿3,999 หรือ ฿399 = มีพลังของเลข 3 ที่สมองเชื่อมโยงกับความสมดุล  เหมาะกับการตั้งราคาแพ็กเกจรายเดือน

13. เลียนแบบราคาในหัวลูกค้า

ถ้าคนคาดหวังว่าสินค้านี้จะประมาณ “฿500” ให้ตั้งที่ “฿479” หรือ “฿499” จะได้เปรียบทางจิตใจ เหมาะกับตลาดที่มีราคากลางในใจลูกค้า

14. เลขทอนง่าย = ตัดสินใจเร็ว

฿50 / ฿100 / ฿150 คือราคาที่คนคิดแค่ 3 วินาที เหมาะกับตลาดออฟไลน์ที่ลูกค้าจ่ายเงินสด

15. ใช้ .01 เพื่อตัดจิตวิญญาณความแพง

฿999.01 สะท้อนว่า “เราไม่ได้ตั้งให้มันกลม” = เราใส่ใจ ให้ความรู้สึกว่าคำนวณมาดี ไม่ตั้งส่ง ๆ

16. ราคาท้าย .66 หรือ .33 = ความแปลกใหม่

฿166 / ฿233 = ราคาที่สมองรู้สึก “ไม่คุ้น” ทำให้คนหยุดดู ใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการสร้างความต่าง

17. แพ็กเกจ 3 ราคาดึงดูด

ตั้ง 3 ราคา เช่น ฿99 / ฿199 / ฿299 → คนจะเลือกกลาง (Decoy Effect) ใช้ดึงลูกค้าสู่ระดับราคาที่เราต้องการ

18. ราคาต่อวัน = ดูคุ้มทันที

แทนที่จะบอกว่า ฿900/เดือน → บอกว่า “แค่วันละ 30 บาท” สมองรู้สึกถูก ทั้งที่จ่ายเท่าเดิม

19. ตั้งราคาแบบ “เหลือเศษ”

฿587 แทน ฿600 ทำให้สมองรู้สึกว่าได้ “ราคาเฉพาะทาง” เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่คิดมากเรื่องราคา

20. ตั้งราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งแบบเนียนๆ

ถ้าคู่แข่งขาย ฿299 ให้เราขาย ฿289 → สมองรับรู้ทันทีว่า “นี่แหละคุ้ม” เทคนิคยอดนิยมในสินค้าประเภทเดียวกัน หรือเรียกตรงๆว่าตัดราคา

21. ราคาจบด้วย 1 = ให้ความรู้สึกด่วน

฿471 / ฿91 = ราคาแบบ “ไม่ต้องคิดเยอะ รีบซื้อก่อนหมด” ใช้กระตุ้นการตัดสินใจด่วน

22. ราคาแบบสะสมความคุ้ม

฿1,290 (สำหรับ 10 ชิ้น) = สมองตีเป็น “แค่ 129 ต่อชิ้น” เทคนิคนี้ใช้ได้ดีในแพ็กของใช้

23. ตั้งราคาให้ดู “หาไม่ได้อีกแล้ว”

฿413, ฿687 = ราคาแบบไม่กลม ทำให้รู้สึกว่าเป็นราคาพิเศษเฉพาะกิจ เหมาะกับแคมเปญจำกัดเวลา

24. ราคาแบบ “คุมเกม”

ตั้งราคาหลัก ฿1,990 และเพิ่มอัปเกรดเสริมเล็ก ๆ ฿99, ฿149 — ลูกค้ารู้สึกว่าควบคุมได้ ใช้เพิ่มยอดขายแบบ Upsell

20 คอมโบ “ประโยคจิตวิทยา + ราคา” 

เพราะบางที “คำพูด” ดีๆ ไม่ว่าทำให้ราคาไหนก็รู้สึกคุ้ม

1. “ราคานี้มีเฉพาะวันนี้” + ฿199 สร้างแรงกดดันแบบนุ่ม ๆ ให้รีบตัดสินใจ

2. “จ่ายแค่วันละ 10 บาท... ได้ชีวิตที่ดีขึ้น” + ฿299/เดือน ทำให้ราคาหลักร้อยดูเหมือนเศษเงิน

3. “ปกติลูกค้าซื้อแพ็กนี้เยอะที่สุด” + ฿499 ใช้ Social Proof แบบแนบเนียน

4. “คุ้มกว่านี้ มีอีกไหม?” + ฿888 ราคาแปลก + คำพูดยั่วใจ = รู้สึกพิเศษ

5. “ลดเพื่อให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น” + ฿1,490 (จาก ฿1,990) เหมือนแบรนด์เข้าใจเรา

6. “จ่ายครั้งเดียว ใช้ได้ตลอดชีวิต” + ฿1,290 ทำให้ราคาสูงดูคุ้มในระยะยาว

7. “ลองก่อน ถ้าไม่ชอบ คืนเงิน 100%” + ฿999 ลดความกลัวในการตัดสินใจ

8. “น้อยกว่า 1 แก้วกาแฟต่อวัน” + ฿690/เดือน เปรียบเทียบกับของที่ซื้อประจำ ให้รู้สึก “จ่ายไหว”

9. “เคยขายหมดใน 2 ชั่วโมง” + ฿147 สร้างความรู้สึกหายาก + urgency

10. “เราไม่ลดราคา... เราเพิ่มของแถม” + ฿2,000 + ของแถม 3 ชิ้น รักษาภาพพรีเมียม แต่ให้รู้สึกคุ้ม

11. “ซื้อวันนี้ = ได้ก่อนใคร” + ฿777 เหมาะกับสาย First Mover

12. “เฉพาะลูกค้าประจำเท่านั้น” + ฿119 Personalization ทำให้รู้สึก VIP

13. “เหลือแค่ 3 ชิ้นสุดท้าย!” + ฿329 ใส่ FOMO เข้าไปแบบไม่ต้องพูดเยอะ

14. “ราคาแบบนี้ เราไม่ได้ตั้งบ่อย ๆ” + ฿999.01 ให้ความรู้สึกพิเศษและจริงใจ

15. “โปรนี้ เราขาดทุน แต่คุณได้กำไร” + ฿1,490 (จาก ฿2,490) เสริมความรู้สึกว่าแบรนด์ “ใจถึง”

16. “จ่ายน้อยกว่า Netflix แต่เปลี่ยนชีวิตได้มากกว่า” + ฿269/เดือน เล่นกับการเปรียบเทียบเชิงคุณค่า

17. “ไม่ต้องคิดเยอะ ราคาเดียวทั่วประเทศ” + ฿599 ให้ความรู้สึกแฟร์ และสะดวกใจ

18. “แพ็กนี้ลูกค้าเรียกร้องให้กลับมา” + ฿449 เสริม Trust + ความนิยม

19. “แพงกว่านี้ ก็ไม่ใช่เราแล้ว” + ฿379 สร้างภาพลักษณ์เรียล ๆ ติดดิน ขายง่าย

20. “จ่ายแบบนี้ แค่ครั้งเดียว... แต่คุ้มทุกวัน” + ฿1,790 (Lifetime access) โฟกัสระยะยาว ทำให้คนกล้าจ่าย

ในจักรวาลแห่งการขาย…ตัวเลขไม่เคยโกหก แต่เราทำให้มัน “พูดสิ่งที่ลูกค้าอยากฟัง” ได้เสมอ ถ้าคุณตั้งราคาดีพอ ต่อให้สินค้าคุณเป็น “ไม้จิ้มฟัน” ลูกค้าก็จะรู้สึกว่า “โอ้โห... อันนี้น่าจะเอาไว้เปิดประตูสวรรค์ได้”

ที่มา เพจ Success Strategies กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ