ปัญหาร้านค้าปลีกที่ผู้ประกอบการต้องเจอ พร้อมวิธีแก้ปัญหา!!

ปัญหาของร้านค้าปลีกขนาดเล็ก

1.เป็นธุรกิจครอบครัว ทายาทไม่ยอมทำ คือ ลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยมาก็ไม่อยากทำร้านแบบนี้ ไปทำงานออฟฟิศดูดีกว่า

2.ไม่มีการขยับขยายธุรกิจ คือ 10 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังมีสภาพเป็นแบบเดิมอยู่ เหมือนหยุดเวลาไว้เลย

3.บริหารงานด้วยระบบกงสี คือ เงินร้านกับเงินเดือนตัวเองใช้ก้อนเดียวกัน เอาเงินร้านไปจ่ายค่ารถ ค่าเทอมลูก และเอาเงินอนาคตมาใช้ก่อน เพราะว่ารับเงินลูกค้าเป็นเงินสดทุกวัน แต่จ่าย supplier เป็นเงินเชื่อ เครดิต 90 วัน เกิดความสับสนนึกว่ามีเงินเยอะ แต่จริง ๆ ไม่ใช่

4.ไม่ทำระบบบัญชีที่ดี เช่น ไม่รู้ยอดขาย ไม่รู้ว่ามีหนี้เท่าไหร่ เพราะแลกเช็คไปเรื่อย ๆ อย่างบ้านพี่หมูมียอดขาย 5 ล้านบาท แต่มีหนี้ 17 ล้านบาท

5.ไม่รู้ว่ามียอดสต็อคเท่าไหร่ บางที 80% เป็นสต็อคเก่าค้างเป็นปี กองอยู่ยังไงก็ยังงั้น.

วิธีแก้ปัญหาร้านค้าปลีก

1.Mindset ของผู้ประกอบการ

• Mindset เป็นจุดเริ่มต้นของการคิดของผู้ประกอบการ มาจากการศึกษา กับ หนังสือที่เราอ่าน อย่างพี่หมูทำร้านเครื่องเขียนของพ่อ ก็เริ่มเอาของเล่นมาขาย เอาเพลงมาขาย คือ มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงก่อน กำไรขาดทุนเดี๋ยวว่ากัน

• เงินทุนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุด แต่ “ความคิด” สำคัญกว่า เราต้องอยากเปลี่ยนแปลงก่อน พี่หมูคิดแบบนี้ว่า “เราไม่สนว่าร้านเราคือร้านอะไร แต่ให้ดูว่าลูกค้าอยากได้อะไร” ทำให้แกขายแผ่นดิสค์ ขาย printer ในร้านเครื่องเขียน ขายกาแฟใน officemate เพราะคิดว่าออฟฟิศซื้อเครื่องเขียนก็ต้องกินกาแฟด้วย ขายเป็นร้อยล้านจน Nestle ต้องขอเข้ามาดู พี่หมูมีหลักการคิดว่า ถ้าขายแต่ของเดิม ๆ ลูกค้าก็ไมอยากเข้า

• ทำระบบบัญชี โดยเฉพาะสต็อค จะได้รู้ว่าอะไรขาย อะไรหายต้องรู้

• หมั่นศึกษาหาความรู้นอกเวลางาน ถ้าอยากอัพเกรดชีวิตตัวเอง ต้องเสียสละอะไรบางอย่าง หาเวลาให้ความรู้ใส่ตัว ง่ายสุดคือ อ่านหนังสือ

2.สภาพร้าน

• ติดไฟร้านสว่างมาก ๆ ให้คนเห็น พอคนรู้จักเยอะมากค่อยปิด

• ร้านสวยได้เปรียบเสมอ

• ความสะอาดและเป็นระเบียบ คือ ความสวยงาม

• จัดเรียงสินค้าให้ดี (Adjancency) สินค้าจำนวน 20% ทำยอดขาย 80% ของร้านต้องเรียงให้ดี ให้หาได้ง่าย เรียงสินค้าให้ต่อเนื่อง เป็นลำดับ สินค้าที่วางอยู่ซ้ายขวามีความสัมพันธ์กันอย่างไรต้องดู

• ป้ายราคาชัดเจน ไม่สับสน เพราะป้ายราคาคือ communication ว่าควรซื้อของมั้ย ลูกค้า afford ได้หรือเปล่า

• สินค้าบนเชลฟ์ เติมไม่ให้ขาด เพราะบางทียอดหาย เพราะไม่มีของขาย หรืออยู่หลังร้านไม่ได้เอามาเติม

3.ระบบและเทคโนโลยี

• คำถามที่พบบ่อยว่าควรลงทุนในเทคโนโลยีไหม คือ ทำแล้วยอดขายเพิ่มไหม และ ทำแล้วต้นทุนลดไหม

• เครื่อง POS ต้องมี (โชว์ห่วยหลายร้านยังใช้ชักรอกใส่เงินในกระป๋อง) เพราะช่วยเช็คยอดขายรายวันได้ ตรวจสอบสินค้าคงเหลือได้ sync ข้อมูลระหว่างสาขา ฯลฯ

• กล้องวงจรปิดต้องมี เพื่อป้องกันของหาย ลูกค้ามักไม่ได้ขโมยนะ แต่เป็นลูกน้องนี่แหละที่ขโมย และมักเป็นลูกน้องที่ขยัน ไม่เคยขาด ไม่เคยสาย

• ระบบบัญชีสต็อค คือ หัวใจของร้านค้าปลีก ใส่ cost ทุกอย่างเข้าไปในระบบ เพื่อให้เกิด efficiency ในการทำงานมากขึ้น

• ระบบบัญชีที่ถูกต้องทำให้ควบคุมตรวจสอบการทำงานได้ดี เพื่อป้องกันคนโกง เพราะคนพวกนี้มักหาช่องโหว่

4.บุคลากร

• รูปลักษณ์การแต่งกาย กิริยามารยาท ให้เหมาะกับงานที่ทำ

• ความรู้ในตัวสินค้า อธิบายได้ เปรียบเทียบได้ ทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าได้ แล้วเค้าจะซื้อ

• แก้ปัญหาหลังการขายได้ ทำให้เกิดความประทับใจกับลูกค้า เพราะสมัยนี้มันจะไปโผล่ใน social media โดยเฉพาะถ้าไม่ดี

• ให้พนักงานมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและร้านค้า ถ้าทำระบบให้ดี คนก็จะไม่โกง คนดีก็จะไม่กลายเป็นคนไม่ดี

5.สร้างความแตกต่างและโดดเด่น

• Miniso ของไม่เยอะ ไม่แพง มีดีไซน์ ให้ซื้อบ่อยๆ ใช้ไฟเยอะมาก และมีระดับความเข้มแสงดีมาก จำนวนสินค้ามีไม่เยอะ แต่วางซ้ำ ๆ ก้อนใหญ่ ๆ ให้ดูเยอะ ๆ

• Uniqlo โดดเด่นมากเรื่องบริการ ตัดขากางเกงฟรี ไม่มีแม่บ้านแต่พนักงานทำเอง

• อย่ารู้แค่ Know How ให้รู้ Know Why ทำไมไฟวางถี่แบบนี้ ทำไมเรียงของแบบนี้

• อย่าตัดราคา ให้ของแถมดีกว่า หรือ ซื้อ 1 แถม 1 ดีกว่า

• ธุรกิจที่ดีคือ ไม่ได้มีกำไรมากไป เพราะเป็นการเรียกคู่แข่งอยากเข้ามาและตัดราคา และก็ไม่ได้น้อยไปจนอยู่ไม่ได้

ที่มา www.linkedin.com