6 วิธีเปลี่ยนร้านโชห่วย ทั้งสวยและรวยขึ้น!

     สมัยก่อนร้านโชห่วยที่ว่านี้ถือเป็นร้านค้าสำคัญประจำชุมชนเรียกว่าขายดิบขายดีขายจนเจ้าของร้านร่ำรวยมีตึกมีบ้านมีเงินเก็บกันอย่างถ้วนหน้าแต่เมื่อเวลาเปลี่ยนสภาพสังคมเปลี่ยนร้านโชห่วยกลับถูกกระแสของร้านสะดวกซื้อที่เราคุ้นเคยเขามาทดแทนจนเดี๋ยวนี้เกิดเป็นคำถามว่าทิศทางร้านโชห่วยนั้นจะเป็นอย่างไร

     ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยเลิกกิจการ แต่ก็ยังมีอีกส่วนมากที่ขอปรับตัวเข้ากระแสยุคใหม่แต่ไม่ทิ้งกลิ่นอายของคำว่าโชห่วยให้หายไป และดูเหมือนว่าความพยายามเหล่านี้จะไม่สูญเปล่า ร้านโชห่วยหลายร้านกลายเป็นต้นแบบของร้านโชห่วยในยุคใหม่ที่ทำกำไรได้ดีเป็นอย่างยิ่งทีเดียว

แนวทางการรีโนเวทร้านค้าปลีกในยุคใหม่

     1.ตั้งคอนเซปต์ของร้าน

     มีหลายธีมของการจัดร้านค้าที่เราสามารถเลือกให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ ถ้าเปิดในย่านคนจีนก็ทำร้านแบบจีน หรือถ้าอยู่ในย่านนักศึกษาก็อาจจัดธีมร้านที่ดูเป็นวัยรุ่นมากขึ้น หรือถ้าอยู่ใกล้แหล่งออฟฟิศอาจจัดธีมร้านเน้นความเป็นธรรมชาติก็น่าสนใจเช่นกัน การกำหนดธีมของร้านนี้เท่ากับเป็นการเปิดประตูการค้าที่ทำให้ลูกค้าเห็นว่านี่ไม่ใช่แค่ร้านโชห่วยแต่เป็นร้านค้าที่น่าสนใจใกล้เคียงหรือมากกว่าร้านสะดวกซื้อที่มีรูปแบบจำเจด้วยซ้ำไป

     2.ออกแบบการจัดเรียงสินค้าใหม่

     ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นร้านขนาดใหญ่หรือว่าขนาดย่อมการจัดสรรพื้นที่วางสินค้าเป็นเสน่ห์สำคัญที่ทำให้ร้านโชห่วยดูน่าสนใจขึ้นได้มาก ทั้งนี้เจ้าของร้านอาจต้องมีแนวทางจัดร้านที่ดีพอสมควร ซึ่งรูปแบบการจัดวางนั้นควรมีเชลล์สินค้าหรือการเรียงสินค้าที่ทำให้ลูกค้าเข้าไปหยิบจับได้ง่าย ที่สำคัญคือทำให้ดูแล้วสบายตาสบายใจอีกด้วย

     3.ลงทุนออกแบบภายในให้สดใสกว่าเดิม

     การเพิ่มความสว่าง การเพิ่มสีสันเป็นเทคนิคเบื้องต้นของการออกแบบภายใน ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านยุคใหม่ เรื่องนี้ต้องสนใจให้มากโดยใช้การออกแบบภายในที่สัมพันธ์กับคอนเซ็ปต์ร้านจะช่วยได้มากทีเดียว

     4.ตกแต่งบริเวณรอบร้านให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

     การเปิดพื้นที่หน้าร้านเหมือนการเชิญลูกค้าให้กล้าเดินเข้ามาในร้านถือเป็นจิตวิทยาทางการค้าอีกประเภทหนึ่ง นอกจากนี้อาจเพิ่มเสน่ห์ด้วยการจัดที่นั่งเล็กๆให้ลูกค้าได้มีมุมส่วนตัวเพิ่มความเป็นธรรมชาติด้วยการใช้ไม้เลื้อยง่ายๆมาช่วยในการตกแต่งก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

     5.เพิ่มเวลาเปิดปิดให้มีความชัดเจนกว่าเดิม

     ร้านโชห่วยในอดีตเป็นกิจการของครอบครัวบางครั้งการเปิดปิดร้านไม่มีความแน่นอนลูกค้าที่ต้องการสินค้าก็คาดเดาไม่ได้ว่าออกมาที่ร้านแล้วจะได้สินค้าตามต้องการหรือไม่ และเพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องนี้ควรมีเวลาเปิดปิดร้านที่แน่นอน โดยเขียนประกาศให้ทราบโดยทั่วกันที่สำคัญเวลาปิดร้านอาจขยายเวลาเพิ่มขึ้นเพราะส่วนมากร้านประเภทนี้พอมืดหน่อยก็ปิดทันทีทั้งที่ลูกค้าในตอนกลางคืนก็มีความต้องการซื้อสินค้าจำนวนมากเช่นกัน

     6.พัฒนาระบบบริหารจัดการร้านให้เป็นระบบมากขึ้น

     นั้นคือการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาร่วมด้วยในการทำบัญชี สต็อกสินค้า หรือรวบรวมข้อมูลเชิงธุรกิจสำคัญๆเอาไว้ และเป็นงานที่เจ้าของร้านโชห่วยรุ่นใหม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อยกระดับการขายสินค้าให้ดีหรือเทียบเท่าพวกร้านสะดวกซื้อ หลายสิ่งหลายอย่างที่กล่าวมาหากทำได้ข้อได้เปรียบสำคัญของร้านโชห่วยคือเรื่องราวความเป็นมากลิ่นอายของวัฒนธรรมที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไปไม่มี นี่คือจุดแข็งสำคัญและเมื่อคุณกำจัดจุดอ่อนที่เหลือออกไปได้ร้านโชห่วยที่หลายคนมองว่าคงเหลือแค่ตำนานก็จะเป็นบริบทหน้าใหม่ที่ทำกำไรได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา www.thaismescenter.com