Cloud Accounting หรือ การบัญชีบนคลาวด์ คืออะไร?

Cloud Accounting หรือ การบัญชีบนคลาวด์ คือ การใช้โปรแกรมบัญชีที่ทำงานบนระบบคลาวด์ (Cloud Computing) แทนการติดตั้งโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กร โดยข้อมูลและซอฟต์แวร์จะถูกเก็บและประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล (Remote Servers) และผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบได้ผ่านอินเทอร์เน็ตจากทุกที่ทุกเวลา

ลักษณะสำคัญของ Cloud Accounting

1. การเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา

  • ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบบัญชีได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, หรือแท็บเล็ต
  • ไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์

2. ข้อมูลถูกเก็บบนคลาวด์

  •  ข้อมูลบัญชีทั้งหมดจะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการคลาวด์ แทนที่จะเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กร
  •  ผู้ให้บริการจะทำหน้าที่ดูแลและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

3. อัปเดตอัตโนมัติ

  •  ซอฟต์แวร์บัญชีบนคลาวด์จะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติโดยผู้ให้บริการ ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่องการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ ๆ

4. ความปลอดภัยของข้อมูล:

  •  ผู้ให้บริการคลาวด์มักมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption), การสำรองข้อมูล (Backup), และระบบป้องกันการโจรกรรมข้อมูล

5. การทำงานร่วมกัน (Collaboration):

  •  ผู้ใช้งานหลายคนสามารถเข้าถึงและทำงานบนระบบบัญชีเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้การทำงานเป็นทีมสะดวกขึ้น

ข้อดีของ Cloud Accounting

1. ความสะดวกและยืดหยุ่น

  •  สามารถทำงานบัญชีได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต
  •  ไม่ต้องพกพาอุปกรณ์หรือติดตั้งโปรแกรมบนเครื่อง

2. ลดต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์:

  •  ไม่ต้องลงทุนในเซิร์ฟเวอร์หรือซอฟต์แวร์ราคาแพง
  •  จ่ายค่าบริการตามการใช้งาน (Subscription-Based) ซึ่งมักมีราคาต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

3. การอัปเดตอัตโนมัติ

  • ผู้ใช้งานจะได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงระบบโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

4. ความปลอดภัยสูง

  •  ผู้ให้บริการคลาวด์มักมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยและมีการสำรองข้อมูลเป็นประจำ

5. การทำงานร่วมกัน

  •  ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้ในเวลาเดียวกัน แม้จะอยู่คนละสถานที่

ข้อเสียของ Cloud Accounting

1. ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต:

  • หากอินเทอร์เน็ตมีปัญหา จะไม่สามารถเข้าถึงระบบได้

2. ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล:

  • ข้อมูลถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ ซึ่งอาจทำให้บางองค์กรกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว

3. ค่าใช้จ่ายระยะยาว:

  • แม้จะไม่ต้องลงทุนเริ่มต้นสูง แต่การจ่ายค่าบริการรายเดือนหรือรายปีอาจสะสมเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงในระยะยาว

 

 

โปรแกรมERPสำเร็จรูป,ERP,โปรแกรมบัญชี,โปรแกรมบริหารธุรกิจ,ProgramERP,โปรแกรมERP,โปรแกรมบัญชีราคาถูก,โปรแกรมบัญชีcloud,โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป,โปรแกรมสําเร็จรูปทางการบัญชี,erpsoftware,โปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชี,โปรแกรมบัญชีออนไลน์,โปรแกรมInventoryControl,โปรแกรมสินค้าคงคลัง,ระบบบริหารสินค้าคงคลัง,โปรแกรมสต็อกสินค้า,ระบบบัญชี,โปรแกรมบัญชีสรรพากรรับรอง,ระบบบัญชีร้านวัสดุก่อสร้าง,ระบบบัญชีร้านเครื่องสําอาง,ระบบบัญชีร้านแฟชั่น,ระบบบัญชีร้านค้าปลีก
โปรแกรมERPสำเร็จรูป,ERP,โปรแกรมบัญชี,โปรแกรมบริหารธุรกิจ,ProgramERP,โปรแกรมERP,โปรแกรมบัญชีราคาถูก,โปรแกรมบัญชีcloud,โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป,โปรแกรมสําเร็จรูปทางการบัญชี,erpsoftware,โปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชี,โปรแกรมบัญชีออนไลน์,โปรแกรมInventoryControl,โปรแกรมสินค้าคงคลัง,ระบบบริหารสินค้าคงคลัง,โปรแกรมสต็อกสินค้า,ระบบบัญชี,โปรแกรมบัญชีสรรพากรรับรอง,ระบบบัญชีร้านวัสดุก่อสร้าง,ระบบบัญชีร้านเครื่องสําอาง,ระบบบัญชีร้านแฟชั่น,ระบบบัญชีร้านค้าปลีก

 

Bplus E-Transaction คืออะไร?

Bplus E-Transaction เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อจัดการธุรกรรมออนไลน์ (Online Transactions) เช่น การขายออนไลน์, การชำระเงิน, และการจัดการคำสั่งซื้อ โดยระบบนี้สามารถทำงานร่วมกับ Bplus ERP On-Premise ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลการขายออนไลน์และข้อมูลภายในองค์กรได้ในระบบเดียว

เหตุผลที่ควรใช้ Bplus E-Transaction ร่วมกับ Bplus ERP

1. แก้ไขข้อเสียของ Cloud Accounting

  • ไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา: ระบบ Bplus ERP On-Premise ถูกติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กร ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสถียรของอินเทอร์เน็ต
  • ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล: ข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บไว้ภายในองค์กร ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ภายนอก
  • ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า: แม้การลงทุนเริ่มต้นอาจสูง แต่ในระยะยาวอาจประหยัดกว่าการจ่ายค่าบริการคลาวด์รายเดือนหรือรายปี

2. ได้ข้อมูลเชิงลึกและ Performance Report

  • ข้อมูลเชิงลึก (Deep Insights): ระบบ Bplus ERP On-Premise สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทุกส่วนขององค์กร เช่น การเงิน, การขาย, สินค้าคงคลัง, และการผลิต
  • Performance Report: สามารถสร้างรายงานประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างละเอียด เช่น รายงานการขาย, รายงานการผลิต, และรายงานการจัดการลูกค้า
  • การทำงานร่วมกันของ E-Transaction และ ERP: ข้อมูลจาก E-Transaction จะถูกส่งไปยัง ERP โดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำและลดความผิดพลาด

3. ความสะดวกและประสิทธิภาพ

  • เชื่อมโยงข้อมูลอัตโนมัติ: ข้อมูลจาก E-Transaction จะถูกส่งไปยัง ERP โดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำ
  • อัปเดตแบบ Real-time: ข้อมูลจะถูกอัปเดตแบบ Real-time ทำให้ผู้บริหารสามารถติดตามสถานะของธุรกิจได้ทันที
  • ปรับแต่งได้ตามความต้องการ: ระบบ Bplus ERP On-Premise และ E-Transaction สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของธุรกิจ

เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก

  • ธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่: ที่ต้องการระบบแบบครบวงจรเพื่อจัดการทุกส่วนขององค์กร
  • ธุรกิจที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก: เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการวางแผนระยะยาว
  • ธุรกิจที่ต้องการควบคุมข้อมูลภายในองค์กร: เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

 

ข้อดีของ Bplus E-Transaction ร่วมกับ Bplus ERP

1. การจัดการธุรกรรมออนไลน์ : จัดการการขายออนไลน์, การชำระเงิน, และการจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การเชื่อมโยงข้อมูล : ข้อมูลจาก E-Transaction จะถูกส่งไปยัง ERP โดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำ

3. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก : สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทุกส่วนขององค์กรเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ

4. การสร้างรายงานประสิทธิภาพ : สามารถสร้างรายงานประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างละเอียด

5. การควบคุมข้อมูลภายในองค์กร : ข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บไว้ภายในองค์กร ทำให้ควบคุมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลได้เต็มที่

 

สรุป

การใช้ Bplus E-Transaction ร่วมกับ Bplus ERP On-Premise เป็นทางเลือกที่สะดวกและตอบโจทย์สำหรับธุรกิจที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกและรายงานประสิทธิภาพ (Performance Report) โดยสามารถแก้ไขข้อเสียของ Cloud Accounting ได้ เช่น การพึ่งพาอินเทอร์เน็ต, ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล, และค่าใช้จ่ายระยะยาว นอกจากนี้ ระบบยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความโดย AI