การกำหนดเป้าหมายหลักและเป้าหมาย่อยให้ชัดเจน จะทำให้เรามีทิศทางในการดำเนินงานขายได้แม่นยำขึ้น ยิ่งเป้าหมายมีความละเอียดแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้เราสามารถบริหารงานขายได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น โดยหลายคนไม่กล้ากำหนดเป้าหมายย่อยเพราะกลัวทำไม่ได้แต่จริงๆ แล้วยิ่งเรากำหนดเป้าหมายได้ดีแค่ไหน ยิ่งทำให้เราเชื่อมั่นมากขึ้นเท่านั้น เพราะจะช่วยในการวางแผนการทำงานของเราด้วย เช่น
- เป้าหมายย่อย (ด้านเวลา) จะกำหนดเป็นรายเดือน, รายสัปดาห์หรือรายวัน แล้วแต่ลักษณะธุรกิจ ยิ่งเรากำหนดย่อยเราก็ต้องมีแผนงานรองรับมากขึ้น พอมีแผนงานรองรับมากเท่าไร ก็ทำให้เราดำเนินการตามแผนได้ดีขึ้นเท่านั้น
- เป้าหมายย่อย (ด้านสินค้า) โดยการคัดเลือกสินค้าหลักที่เราจะนำเสนอเป็นส่วนใหญ่ หรือ คาดหวังว่าจะขายได้ในแต่ละช่วงเวลา ทำให้เราต้องวางแผนในการให้ความสำคัญกับสินค้าหลัก (ที่เราเลือก) มากกว่าสินค้าทั่วๆ ไป อีกทั้งยังต้องแน่ใจว่าสินค้าที่เราตั้งใจนำเสนอขาย มีเพียงพออยู่ใน Stock เมื่อเราต้องการ ทำให้แผนงานของเราครอบคลุมทั้งเรื่องการเตรียมศึกษาความรู้, เทคนิคการนำเสนอ, ตรวจสอบสินค้าคงคลัง และมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในสินค้าหลักๆ จึงมีโอกาสขายได้ง่ายขึ้นครับ
- เป้าหมายย่อย (ด้านลูกค้า) การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้ในตอนเริ่มต้น ก่อนวางแผนขาย จะทำให้เรามองเห็นขนาดตลาด หรือโอกาสในการขายของแต่ละกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ชัดเจน ว่ามีเพียงพอกับเป้าหมายยอดขายหลักหรือไม่ แล้วจึงดำเนินการเตรียมตัวที่จะค้นหารายชื่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อนำมาติดต่อเข้าพบอีกทีหนึ่ง รวมถึงการศึกษาถึงพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมายว่ามีความสนใจในสินค้าหลักของเราอย่างไร สุดท้ายก็ต้องตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าพบลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ครบถ้วนเมื่อไร เพื่อจะได้ไปนำเสนอกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอื่นๆ ต่อไป
“ผู้ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่...เริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน”
แนวทางคิดในการกำหนดเป้าหมายนี้ สามารถนำไปปรับใช้กับแต่ละลักษณะธุรกิจที่แตกต่างกันได้ โดยการตั้งเป้าหมายย่อยให้เหมาะสมต่อไป เช่น
- เป้าหมายย่อยด้านอุตสาหกรรม
- เป้าหมายย่อยด้านเขตพื้นที่
- เป้าหมายย่อยด้านทีมงานขาย
- เป้าหมายย่อยด้านหมวดสินค้า
- เป้าหมายย่อยด้านกิจกรรม
- เป้าหมายย่อยด้านฤดูกาล
- เป็นต้น
ที่มา www.entraining.net
27 November 2023
View
593