การได้รับ เงินชดเชยเลิกจ้าง เป็นสิทธิที่ลูกจ้างพึงได้รับตามกฎหมายแรงงาน แต่หลายคนอาจสงสัยว่า เงินชดเชยต้องยื่นภาษีอย่างไร และส่วนไหนที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
กรณีเดิม
ก่อนหน้านี้ กฎหมายกำหนดว่า
- เงินชดเชยเลิกจ้าง คิดตามค่าจ้าง 300 วันสุดท้ายของการทำงาน
- ส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท จะได้รับ การยกเว้นภาษี ไม่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ส่วนที่เกิน 300,000 บาท ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ตามปกติ
ตัวอย่างเช่น เงินชดเชยที่ได้รับ 350,000 บาท → 300,000 บาทแรก ยกเว้นภาษี ส่วน 50,000 บาท ต้องนำไปคำนวณภาษี
กรณีใหม่
ปัจจุบันมีการปรับปรุงกฎหมายให้สิทธิยกเว้นสูงขึ้น
- เงินชดเชยเลิกจ้าง คิดตามค่าจ้าง 400 วันสุดท้ายของการทำงาน
- ส่วนที่ไม่เกิน 600,000 บาท ยกเว้นภาษี ไม่ต้องรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ส่วนที่เกิน 600,000 บาท ต้องนำไปคำนวณภาษีตามปกติ
ตัวอย่างเช่น เงินชดเชยที่ได้รับ 700,000 บาท → 600,000 บาทแรก ยกเว้นภาษี ส่วน 100,000 บาท ต้องนำไปคำนวณภาษี
การปรับปรุงกฎหมายล่าสุดช่วยให้ลูกจ้างได้รับ สิทธิยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้น จากเดิม 300,000 บาท เป็น 600,000 บาท และคิดจาก ค่าจ้าง 400 วันสุดท้ายของการทำงาน สิ่งสำคัญคือ ส่วนที่เกินจำนวนยกเว้นต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อให้ยื่นภาษีถูกต้องและไม่เกิดปัญหาภายหลัง
-
ตรวจสอบเอกสารเงินชดเชย เอกสารจากนายจ้างต้องระบุจำนวนเงินชดเชยและวันที่จ่ายให้ชัดเจน
-
เก็บหลักฐานสำหรับยื่นภาษี ใช้เอกสารประกอบการยื่นภาษีประจำปี เพื่อคำนวณส่วนที่ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง
-
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี หากมีเงินชดเชยเกินจำนวนยกเว้น หรือต้องการวางแผนภาษีให้เหมาะสม
ที่มา ไทยรัฐ