เทคนิคขายของราคาสูง ให้ยอดขายพุ่งมหาศาล

                      การขายสินค้าราคาสูงหลายคนอาจจะคิดว่ามันขายยาก จะมีสักกี่คนกันที่กล้าควักกระเป๋าซื้อราคานี้ เราจึงได้แต่เห็นคนแย่งกันขายแต่ของราคาถูก ๆซึ่งต้องเน้นปริมาณมาทดแทนกำไรอันน้อยนิด อันที่จริงการจะขายของแพง ๆให้ขายง่ายเหมือนขายของถูกมันมีเทคนิคที่สามารถทำได้ดังนี้

1.“ตัวคุณ” ต้องแพง

ถ้าคุณลองสังเกต ไม่มีของราคาสูง ๆ แบรนด์ไหนที่ทำแพ็กเกจราคาถูก ๆ ออกมาเพื่อ Drop มูลค่าของตัวเองกันมีแต่จะทำให้มัน Up มูลค่าให้สมราคามากขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ ดังนั้น Context ที่แวดล้อมของแพงก็ต้องดูแพงสอดคล้องไปด้วยกันทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่ตัวคนขาย เวลาที่คุณออกไปขายของไม่ว่าจะไปเจอหน้ากันจริง ๆเอารูปออกมาโผล่ที่หน้าเพจหรือออกมา Live ขายของตัวคุณจึงต้องดูแพงสมราคาด้วย อย่างเรื่องของการแต่งเนื้อแต่งตัวถือเป็นการลงทุนแบบหนึ่งแล้ว ยิ่งคุณขายของแพงมันยิ่งเป็นข้อบังคับ เพราะก่อนที่ตัวสินค้าจะถูกพิสูจน์ว่าตัวมันแพงสมราคาจริง ๆ หรือเปล่าสิ่งที่จะสะท้อนราคาให้เห็นก่อนก็คือตัวคุณนั่นแหละ ดังนั้นคุณต้องแต่งตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับสินค้าที่คุณขาย คนขายที่ดูแพง ดูทันสมัยจึงจะคู่ควรกับราคาและสินค้าที่ขายลอง คิดดูว่าถ้าลูกค้าจะซื้อของราคานี้แต่มาเจอคนขายดูไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย ใครเค้าจะกล้าเอาเงินหลายพันยันหลายหมื่นไปใส่มือคนที่จะมาหลอกเค้าหรือเปล่าก็ไม่รู้

 

2. “ภาษา” ต้องแพง

การเลือกใช้ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอขายภาษาบางอย่าง อย่างภาษาอังกฤษ คำศัพท์เฉพาะต่างๆ มันทำให้การนำเสนอนั้นดูแพงขึ้น โดยเฉพาะพวกชื่อเฉพาะ สารสกัดต่างๆนานา ที่มาจากที่ไกลๆ หายากๆ มีผลต่อความรู้สึกถึงที่มาที่ไปที่ทำให้มันมีคุณค่าสูงฟังดูแล้วสมกับมูลค่าที่น่าจ่ายให้ 

 

3. “สื่อ” ต้องแพง

ข้อห้ามขั้นรุนแรงเลยก็คือการนำเสนอของคุณภาพสูง ราคาสูงด้วยสื่อคุณภาพต่ำ ที่ดูราคาต่ำเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นสื่อออฟไลน์หรือออนไลน์ กระดาษที่ใช้ก็ต้องไม่ใช่แบบใบปลิวตามเสาไฟฟ้า ภาพที่ใช้ก็ต้องมีคุณภาพสูงภาพไม่แตก มีความละเอียด คมชัดมองเห็นได้ง่าย ดู Elegance นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการเลือกใช้สีการเลือก Theme ให้ดูแพงด้วย โดยส่วนใหญ่แบรนด์ต่างๆจะมี CI (Corporate Identity) มาอยู่แล้ว คุณก็เอาสี โทนและธีม ตามนั้นมาใช้ได้เลยอย่าไปคิดเอง เออเอง ทำเองจนทำแบรนด์เค้าผิดเพี้ยน อย่างสียอดฮิตของสาวๆ เช่น สีชมพู สีแดงเอาเข้าจริงๆ มันเป็นสีที่เอามาใช้ยาก เพราะแต่ละสีก็ยังมีหลายโทนแล้วก็ใช่ว่าทุกโทนจะดู Elegance เหมือนกันหมด แม้จะเป็นสีเดียวกันดังนั้นต้องระวังในเรื่องนี้ดีๆ เพราะมันมีผลต่อการตีราคาในใจของลูกค้า

 

4. ชู “จุดขาย” ที่มีมูลค่าสูง

การนำเสนอของแพง ก็ต้องรู้จักเลือกจุดขายออกไปชูให้ลูกค้าเห็นด้วย โดยเฉพาะจุดขายที่ Add Value ให้สินค้านั้นดูแพงมากยิ่งขึ้น เช่นประสิทธิภาพดีกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า,ได้สินค้าไวกว่า,แก้ไขได้เชิงลึกกว่า,ครอบคลุมมากกว่าทั้งหมดนี้เพื่อบ่งบอกถึง “เหตุผลของความแพง” ให้ลูกค้าฟังแล้วพยักหน้าตามหงึกๆ “อื้มมม...มันก็คุ้มค่าสมกับราคานะ "อย่างนี้ค่อยน่าควักกระเป๋าซื้อหน่อย"

 

5. ช่วยให้ลูกค้า “โชว์ Status”

ด้วยความที่ยุคนี้เป็นยุคแห่ง Social Media ที่ได้เห็นใครต่อใครโชว์สิ่งต่างๆในชีวิตกัน คุณจึงต้องพยายามดัน Value ในเรื่องของ Status ให้ลูกค้าเห็นว่าคนมีฐานะเค้าใช้ของกลุ่มนี้กัน หรือเป็นสิ่งที่คนสำเร็จเค้าให้รางวัลตัวเองกัน เมื่อลูกค้าซื้อไปแล้วจะช่วยให้เค้าโชว์ Status ต่อสังคมได้

 

ขอบคุณที่มา น.สพ. ธีรพงษ์ เศรษฐิวัฒน์ (หมอกิม)// salesarm.co.th