สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME การเข้าใจงบการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจสับสนระหว่าง “งบกระแสเงินสด” (Cash Flow Statement) และ “งบกำไรขาดทุน” (Income Statement) — ว่าทั้งสองอย่างแตกต่างกันอย่างไร? และอันไหนสำคัญกว่ากัน?
ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบทั้ง 2 งบแบบเจาะลึก พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณบริหารเงินธุรกิจได้ดีขึ้น!
1. งบกระแสเงินสด vs งบกำไรขาดทุน ต่างกันยังไง?
งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
- แสดงผลการดำเนินงาน ของบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง (เดือน/ไตรมาส/ปี)
- คำนวณจาก "เกณฑ์คงค้าง" (Accrual Basis) → บันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดขึ้น ไม่ต้องรอรับ/จ่ายเงินสดจริง
- ตอบคำถาม: "บริษัทมีกำไรหรือขาดทุน?"
ตัวอย่าง:
- ขายสินค้าเงินเชื่อ 100,000 บาท (ยังไม่ได้รับเงิน) → นับเป็นรายได้
- ค่าไฟฟ้ายังไม่จ่าย 5,000 บาท → นับเป็นค่าใช้จ่าย
งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)
- แสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดจริง ที่เข้าและออกจากบริษัท
- คำนวณจาก "เงินสดจริง" (Cash Basis) → บันทึกเฉพาะเมื่อเงินเข้าหรือออกบัญชี
- ตอบคำถาม: "บริษัทมีเงินสดเหลือพอไหม?"
ตัวอย่าง:
- รับชำระเงินจากลูกค้า 50,000 บาท (แม้ขายไป 100,000 บาท) → นับเฉพาะเงินที่ได้รับจริง
- จ่ายค่าเช่า 10,000 บาท → นับเป็นเงินออก
2. ตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
สมมุติ บริษัท A ขายสินค้าในเดือนมกราคม ดังนี้:
รายการ |
งบกำไรขาดทุน
|
งบกระแสเงินสด
|
ขายสินค้าเงินเชื่อ 100,000 บาท (ลูกค้าจะจ่ายในเดือนหน้า)
|
+100,000 บาท (รายได้)
|
+0 บาท (ยังไม่ได้รับเงิน)
|
ค่าขนส่งสินค้า 20,000 บาท (จ่ายทันที)
|
-20,000 บาท (ค่าใช้จ่าย)
|
-20,000 บาท (เงินออก)
|
ค่าไฟฟ้า 5,000 บาท (ยังไม่จ่าย)
|
-5,000 บาท (ค่าใช้จ่าย)
|
+0 บาท (ยังไม่จ่าย)
|
สรุป
|
กำไร 75,000 บาท
|
เงินสดลด 20,000 บาท
|
จากตัวอย่าง:
- งบกำไรขาดทุน บอกว่าบริษัทมีกำไร 75,000 บาท
- แต่ งบกระแสเงินสด บอกว่าเงินสดลด 20,000 บาท เพราะยังไม่ได้เงินจากลูกค้า แต่ต้องจ่ายค่าขนส่ง
→ นี่คือเหตุผลที่ SME หลายเจ้า "กำไรเยอะแต่เงินสดไม่มี"
3. แล้วอันไหนสำคัญกว่าสำหรับ SME?
งบกำไรขาดทุนสำคัญเมื่อ...
- ต้องการดู ความสามารถในการทำกำไร ของธุรกิจ
- ใช้ยื่นสินเชื่อหรือหาพันธมิตร (เพราะแสดงผลประกอบการ)
- วางแผนกลยุทธ์การขายและควบคุมค่าใช้จ่าย
งบกระแสเงินสดสำคัญเมื่อ...
- ต้องการรู้ สภาพคล่องระยะสั้น (เงินพอจ่ายเดือนนี้ไหม?)
- ธุรกิจมี การขายเงินเชื่อ หรือ หนี้ค้างจ่าย เยอะ
- ต้องการหลีกเลี่ยง วิกฤตเงินสดขาดมือ แม้มีกำไร
สรุป: SME ควรดูทั้งคู่ แต่เน้นงบกระแสเงินสดมากกว่า
- “กำไร” ไม่ได้แปลว่า “มีเงินสด” → SME จำนวนมากล้มเหลวเพราะเงินสดไม่พอ
- งบกระแสเงินสดช่วยเตือนภัยล่วงหน้า ก่อนเกิดปัญหาจริง
4. วิธีบริหารทั้ง 2 งบให้มีประสิทธิภาพ
สำหรับงบกำไรขาดทุน
- ควบคุม ค่าใช้จ่ายผันแปร (เช่น ค่าวัตถุดิบ) ให้สมดุลกับรายได้
- ตั้งเป้า อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ที่เหมาะสม
สำหรับงบกระแสเงินสด
- จัดการ วงจรเงินสด (Cash Conversion Cycle) ให้เร็วขึ้น
- ระวัง การขายเงินเชื่อ มากเกินไป → อาจทำให้เงินสดติดลบ
- ใช้ เครื่องมือทำนายกระแสเงินสด เพื่อวางแผนล่วงหน้า
5. บทสรุป: เลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์
สถานการณ์ |
งบที่ควรโฟกัส |
ต้องการวัดผลประกอบการ
|
งบกำไรขาดทุน
|
ต้องการรู้สภาพคล่อง
|
งบกระแสเงินสด
|
วางแผนขยายธุรกิจ
|
ดูทั้งคู่ + งบดุล
|
เตรียมยื่นกู้ธนาคาร
|
งบกำไรขาดทุน (แต่ธนาคารก็ดูงบกระแสเงินสดด้วย) |
เขียนโดย AI
หากคุณเป็น SME และกำลังเจอปัญหาเหล่านี้:
❌ เสียเวลาคำนวณงบการเงินมือทุกเดือน
❌ ไม่แน่ใจว่ากำไรที่เห็นคือเงินสดจริงหรือไม่
❌ อยากพยากรณ์กระแสเงินสดล่วงหน้า
ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารอีกต่อไป! Bplus ERP คือโซลูชันที่ช่วยคุณ บริหารทั้ง 2 งบได้ง่ายขึ้น!
✅ สรุป งบกำไรขาดทุนและงบกระแสเงินสดอัตโนมัติ
✅ ติดตาม เงินสดรับ-จ่ายแบบ Real-Time
✅ วิเคราะห์ แนวโน้มกระแสเงินสดล่วงหน้า
ปรึกษาฟรี! ทีมผู้เชี่ยวชาญ Bplus
พร้อมแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ