6 สิ่งที่สร้างภูมิคุ้มกันความล้มเหลวในช่วงเริ่มต้นกิจการ

สำหรับมือใหม่ อยากเริ่มต้นสร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยตนเอง ไม่ง่ายที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และบ่อยครั้งความฝันมักจะแตกต่างกับความเป็น ด้วยภาวะและอุปสรรคต่างๆ ดังนั้นการเริ่มต้นทำธุรกิจควรมีแผนการรองรับ และวิเคราะห์ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ไปดู 6 Step ที่ถอดแบบมาจากการดำเนินธุรกิจของผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วกัน ว่ามีเทคนิคอย่างไรบ้าง

1. มีความพร้อมในสิ่งที่จะทำ ในส่วนที่ว่าจะขายอะไร ให้ใคร รูปแบบสินค้าบริการเป็นแบบไหน งบประมาณเท่าไหร่ มีการดำเนินการอย่างไร ที่ทางทำเล ร้านค้า การตกแต่ง แพ็คเกจจิ้ง ฯลฯ ต้องคิดออกแบบวางแผนให้ครบก่อนถึงจะเริ่มต้นเปิดกิจการได้ ภายใต้การจัดสรรงบประมาณให้สมดุลและมีขอบเขต ตามขั้นตอน ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องมีก่อนจะเปิดให้บริการ

หากยังไม่มีความพร้อมในเรื่องของรูปแบบการดำเนินการ เช่น สูตรอาหารยังไม่นิ่ง โลโก้ยังไม่เสร็จ ชื่อแบรนด์ยังไม่มี ก็ยังไม่ควรเร่งเปิดกิจการ เพราะถ้าเปิดในขณะที่ไม่พร้อมที่จะบอกใครได้ว่าเราทำอะไร ขายให้ใคร ไปจนถึงเอกลักษณ์ชวนจำไม่มี ก็อาจจะทำให้เกิดภาพจำในด้านที่ไม่พึงปรารถนาได้ การเริ่มต้นธุรกิจอาจสะดุดกลางคัน จากการที่ต้องบริหารเงินทุนที่ได้รับมาแล้วลงทุนหมุนเวียนต่อไป ทำให้มีขอบเขตการลงทุนไม่สิ้นสุด แล้วสุดท้ายก็จะไปสะดุดกับผลกำไรที่หายไปกับเงินที่ลงทุนไม่จบสิ้น จากความไม่พร้อมในเรื่องจำเป็นพื้นฐานที่ต้องมี

2. แบรนด์ชวนจำ ทำตลาดง่าย เป็นสิ่งจำเป็นต้องมีนับตั้งแต่วันแรกเริ่มกิจการ การจะตั้งชื่อแบรนด์หรือชื่อเรียกกิจการร้านค้า ควรสื่อความหมายถึงในสิ่งที่กำลังทำ รวมไปถึงเล่นคำให้เกิดการจำง่าย เช่น เครปป้าเฉื่อย, ปังเว้ย...เฮ้ย, ตำสะท้านครก ฯลฯ ชื่อแปลกแหวกแนวแบบมีเอกลักษณ์ จะไปสะดุด ทำให้คนจำได้ง่ายกว่าคำสามัญทั่วไปที่ใครๆ ก็ใช้กัน เพราะวันหนึ่งหากสินค้าบริการปังติดตลาดขึ้นมา ชื่อที่ติดหูก็จะช่วยกระพือให้บินสูงได้ง่ายขึ้นไปด้วย

3. สินค้าและบริการโดดเด่นราคาเหมาะสม เช่น ยำใหญ่ใส่กุ้งไซส์ยักษ์ สด ใหม่, ปังไส้ทะลักบริการขนส่งรวดเร็วภายใน 24 ชม., กาแฟสด No Fat, ขนมปังปิ้งเตาถ่าน (ทำให้หอม หวาน รอนานไปอีก) ล้วนเป็นการสร้างสินค้าให้โดดเด่น ด้วยลูกเล่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่กลายเป็นจุดขาย ทำให้สินค้าติดตลาดง่าย ชวนจำ ด้วยราคาที่เหมาะสม จะทำตลาดได้ง่ายกว่า

4. มีความเชื่อมั่น มุ่งมั่น และมั่นใจในสิ่งที่ทำ ซึ่งเป็นหัวใจของความสำเร็จในการเริ่มต้นกิจการ โดยต้องเชื่อมั่นก่อนว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเรื่องที่ดี ทั้งต่อตัวเอง ต่อลูกค้าและสังคม และมุ่งมั่นเดินหน้าทุ่มพลังเพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเกิดอุปสรรคอะไรขึ้นก็ไม่ล้มเลิก อะไรที่ไม่รู้ก็ถามผู้รู้ อะไรที่ไม่เก่งก็รู้จักฝึกฝน อะไรที่ไม่ถนัดก็หาผู้ช่วย สุดท้ายต้องมั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นจะนำไปสู่ความสำเร็จตามภาพที่อยู่ในหัวที่ชัดเจน เพราะคนที่ทำสำเร็จส่วนใหญ่มักเชื่อมั่นในตัวเองและมั่นใจว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน

5. วางที่ตั้งบนทำเลเหมาะสม ทำเลเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะประเภทร้านค้าจำเป็นต้องมีที่ตั้งที่เหมาะสมกับธุรกิจที่ทำ ควรเลือกทำเลที่จะทำให้คนเข้าถึงได้ง่าย มองเห็นชัด และวางพิกัดให้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ เช่น อาจวางร้านสาขาในโซนถนนเส้นเดียวกันไว้ 2-3 ร้าน โดยเว้นช่วงห่างตามสมควร เพื่อให้คนที่ผ่านไปมาสามารถมองเห็นได้ง่ายจนติดตา เพราะการที่เขาไม่รู้จักย่อมเกิดความลังเลเมื่อแรกเห็น หากขับรถผ่านไปสักพักเกิดสนใจก็มีสาขาข้างหน้าคอยดักทางอยู่ โดยที่ไม่ต้องสะดุด วนรถกลับมา เป็นการทำตลาดที่ให้ผลดี อีกทั้งยังช่วยการันตีด้วยว่า สินค้าและบริการนี้ดีเพราะมีหลายสาขา

6. สร้างจุดแข็ง ด้วยจุดอ่อนของคู่แข่ง การศึกษาคู่แข่งที่มีอยู่ก่อนหน้าในตลาดจะทำให้เห็นถึงจุดอ่อนที่มี ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาเป็นจุดแข็งให้กับสินค้าหรือบริการของตัวเองได้ รวมถึงในวิกฤติสถานการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น เช่น ต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้นแต่ยังคงให้บริการได้ในราคาเท่าเดิม ไม่ปรับปรุงเพิ่มเติมราคาก็ทำให้แบรนด์ที่สร้างหรือสินค้าที่มี มีจุดแข็งที่สามารถเอาชนะคู่แข็งและครองใจผู้บริโภคในท้องตลาด และเป็นหัวใจที่นำพากิจการไปสู่ความสำเร็จได้

 

ที่มา https://www.bangkokbanksme.com/en/step-immunity-to-failure-start-business และ https://www.ryounoi100lan.com/