กรณีที่ลูกจ้างถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม หรือโดยไม่มีเหตุผลสมควรตามกฎหมายแรงงาน ลูกจ้างอาจมีสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ซึ่งมักเรียกกันในภาษาไม่เป็นทางการว่า "ค่าตกใจ"
กรณีที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับ "ค่าตกใจ"
-
เลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หากนายจ้างไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าลูกจ้างทำผิดร้ายแรง เช่น การละทิ้งหน้าที่หรือขัดคำสั่งโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าสมควรเลิกจ้าง การเลิกจ้างเกิดจากการเลือกปฏิบัติ เช่น การกลั่นแกล้ง
-
เลิกจ้างไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เช่น การเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยหรือไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ไม่แจ้งเตือนลูกจ้างล่วงหน้า หรือเลิกจ้างโดยไม่ให้โอกาสลูกจ้างชี้แจงข้อกล่าวหา
-
กระทำการขัดต่อหลักความยุติธรรม เลิกจ้างลูกจ้างจากเหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น เพศ อายุ หรือความคิดเห็นส่วนตัว การเลิกจ้างเนื่องจากลูกจ้างร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิแรงงาน
ค่าตกใจ หรือ ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม เป็นเงินที่ศาลแรงงานอาจกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายในกรณีที่เลิกจ้างลูกจ้างโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือไม่เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งเงินชดเชยในกรณีนี้ ไม่จำกัดอยู่ที่ 1 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่ศาลพิจารณา
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 17/1 บัญญัติว่า “ในกรณีที่นายจ้างบอกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าให้ลูกจ้างทราบตามมาตรา 17 วรรคสอง ให้นายจ้างจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างเป็นจำนวนเท่ากับค่าจ้างที่ลูกจ้างควรจะได้รับนับแต่วันที่ให้ลูกจ้างออกจากงานจนถึงวันที่การเลิกสัญญาจ้างมีผลตามมาตรา 17 วรรคสอง โดยให้จ่ายในวันที่ให้ลูกจ้างออกจากงาน”
เช่น กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 30 ของทุกเดือน นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง ในวันที่ 2 มกราคม 2564 ให้มีผลทันที กรณีนายจ้างต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าให้กับลูกจ้างไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งมากกว่า 1 เดือน
ที่มา คลินิกกฎหมายแรงงาน
19 November 2024
View
1,906