หักเงินเดือน ... หักแบบไหน ถูกกฎหมาย

          มาตรา 76 ในกฎหมายคุ้มครองแรงงานระบุว่า "นายจ้างห้ามหักค่าจ้างของลูกจ้างโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง ยกเว้นในกรณีที่ลูกจ้างยินยอมให้หัก โดยต้องเป็นการยินยอมที่เป็นความประสงค์จากตัวลูกจ้าง และต้องได้รับความยินยอมนี้โดยตรงหรือเขียนลงเป็นหนังสือ การหักค่าจ้างโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างมีโทษปรับทางอาญาไม่เกิน 10,000 บาท

          ในกรณีที่นายจ้างต้องการหักค่าจ้างของลูกจ้างโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง นายจ้างต้องได้รับความยินยอมเป็นการชัดแจ้งและเข้าใจจากลูกจ้าง และความยินยอมนี้ควรถูกบันทึกเป็นหนังสือหรือเอกสารที่ยังชัดเจน หากไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างและหักค่าจ้างโดยไม่ควรหัก นายจ้างอาจถูกกล่าวหาและมีโทษปรับทางอาญา

           การหักเงินเดือนคือกระบวนการลดจำนวนเงินที่ได้รับจากเงินเดือน มักจะเกิดขึ้นในหลายสาเหตุและตามกฎหมายและนโยบายขององค์กร การหักหรือลดเงินเดือนไม่ใช่เรื่องที่ผิดต่อหลักกฎหมายเสมอไป บางกรณีนายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้เช่นเดียวกัน โดยทั้งหมดนั้นต้องผ่านการยินยอมหรือการยอมรับแบบเป็นลายลักษณ์อักษร และต้องสอดคล้องกับกรณีดังต่อไปนี้

  • หักภาษีหรือชำระเงินอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด
  • หักค่าสหภาพแรงงานฯ
  • ชำระหนี้สหกรณ์
  • หักเงินประกันบางประเภท หรือหักค่าเสียหายโดยลูกจ้างต้องยินยอม
  • หักเงินสะสม
  • ชำระภาษีเงินได้
  • ชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ
  • เงินประกัน เงินสะสมตามข้อตกลง
  • ชำระเงินคืนบริษัท เพื่อการชำระหนี้ ได้แก่ ค่าเครื่องแบบ ค่าตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน ค่าเสียหายจากที่พนักงานกระทำความผิดไม่อยู่ปฏิบัติงานตามสัญญา โดยพนักงานได้ทำหนังสือยินยอมตั้งแต่ครั้งแรกก่อนเริ่มงาน หากไม่อยู่ปฏิบัติงาน จนพ้นขั้นทดลองงาน ยินยอมให้บริษัทหักเงินจากเงินเดือนตามจำนวนที่ระบุไว้ในเอกสาร
  • เงินสำรองใด ๆ อันเป็นธุระของพนักงานเอง เช่น ค่าเปิดบัญชีธนาคาร ค่าธรรมเนียมบัตร ATM ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินสิทธิที่พนักงานได้รับ เป็นต้น

 

ที่มา Jobs DB