ธุรกิจ e-Commerce หรือร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบัน ไม่เพียงต้องเน้นยอดขายและความเร็วในการส่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับ เรื่องบัญชีและภาษี เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง ไม่โดนตรวจสอบย้อนหลัง และไม่เสียภาษีเกินความจำเป็น
Bplus ERP ช่วยให้คุณจัดการทุกด้านของธุรกิจได้ครบ ทั้งรายรับ-รายจ่าย สต็อกสินค้า และภาษีแบบมืออาชีพ
ทำไมต้องยื่นภาษี?
- กฎหมายกำหนด ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 56 หากมีรายได้รวม (ทั้งจากงานประจำ + ขายของออนไลน์) เกิน 60,000 บาท/ปี (โสด) หรือ 120,000 บาท/ปี (สมรส) ต้องยื่นภาษี
- การยื่น ≠ การเสียภาษีเสมอไป (อาจได้เงินคืนหากหักค่าใช้จ่ายและลดหย่อนได้มาก)
ประเภทเงินได้ที่ต้องยื่น
- เงินได้ประเภทที่ 1 (มาตรา 40(1)) → รายได้จากงานประจำ (เงินเดือน, โบนัส)
- เงินได้ประเภทที่ 8 (มาตรา 40(8)) → รายได้จากขายของออนไลน์
วิธียื่นภาษี
แบบฟอร์ม |
สำหรับ |
กำหนดยื่น |
ภ.ง.ด.91 |
ยื่นเฉพาะเงินได้จากงานประจำ (ประเภทที่ 1) |
1 ม.ค. - 31 มี.ค. ของปีถัดไป |
ภ.ง.ด.90 |
ยื่นรวมทุกประเภท (งานประจำ + ขายของออนไลน์) |
1 ม.ค. - 31 มี.ค. ของปีถัดไป |
ภ.ง.ด.94 |
ยื่นภาษีครึ่งปี (สำหรับขายของออนไลน์) |
1 ก.ค. - 30 ก.ย. ของปีเดียวกัน |
📌 หมายเหตุ: หากขายของออนไลน์ มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจด VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) และยื่น แบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน
การคำนวณภาษี
วิธีที่ 1: คำนวณแบบขั้นบันได (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) × อัตราภาษี
ค่าใช้จ่ายแบบเหมา:
- งานประจำ: หักได้ 50% ของเงินได้ (ไม่เกิน 100,000 บาท)
- ขายของออนไลน์: หักได้ 60% (หากซื้อมาขาย) หรือ หักตามจริง (หากผลิตเอง)
ตัวอย่างการคำนวณ:
- นาย A เงินเดือน 30,000 บาท/เดือน (360,000 บาท/ปี) → หักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท → เหลือ 260,000 บาท
- ขายของออนไลน์ 180,000 บาท/ปี → หัก 60% (108,000 บาท) → เหลือ 72,000 บาท
- รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย = 260,000 + 72,000 = 332,000 บาท
- หักค่าลดหย่อนส่วนตัว (60,000 บาท) + ประกันชีวิต (20,000 บาท) → เหลือ 252,000 บาทหักค่
คำนวณภาษี:
- 150,000 บาทแรก → ยกเว้น
- 102,000 บาทที่เหลือ × 5% = 5,100 บาท
วิธีที่ 2: คำนวณแบบเหมา (หากรายได้ไม่ใช่เงินเดือน > 1 ล้านบาท/ปี)
- เสียภาษี 0.5% ของรายได้ทั้งหมด
- เลือกวิธีที่เสียภาษีมากกว่า
บทลงโทษหากไม่ยื่นภาษี
- ไม่ยื่นภาษี: เสีย เบี้ยปรับ 2 เท่า ของภาษีค้าง + ดอกเบี้ย 1.5%/เดือน
- ยื่นช้า: เบี้ยปรับ 1 เท่า + ดอกเบี้ย
- เรียกเก็บย้อนหลังได้ 10 ปี (หากไม่เคยยื่น) หรือ 2-5 ปี (หากเคยยื่นแต่ไม่ครบ)
.jpg)
อ้างอิง : https://www.dailynews.co.th/news/4326336/
ถ้าไม่ชำระในกำหนดเวลาหรือชำระไม่ถูกต้องจะมีความรับผิดอย่างไรบ้าง?
เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ถือเป็นบทลงโทษเกี่ยวกับภาษีอากรอย่างหนึ่ง และอาจมีโทษทางอาญาด้วย แล้วแต่ความผิดว่าเป็นเรื่องร้ายแรงขั้นไหน โดยหากบุคคลใดยื่นแบบฯ ภายในกำหนดแต่ชำระภาษีไม่ครบถ้วน หรือยื่นแบบฯ ล่าช้า ละเลย หรือหลีกเลี่ยงการยื่นแบบฯ จะต้องเสียเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามกฎหมายกำหนด และหากฝ่าฝืนไม่ยอมชำระ ก็ต้องรับโทษทางอาญาด้วย ซึ่งมีบทลงโทษ ดังนี้
- กรณีไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลา จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) ของเงินภาษีที่ต้องชำระนับแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นรายการจนถึงวันชำระภาษี
- กรณีเจ้าพนักงานตรวจสอบออกหมายเรียก และปรากฏว่ามิได้ยื่นแบบแสดงรายการไว้หรือยื่นแบบแสดงรายการไว้แต่ชำระภาษีขาดหรือต่ำไป นอกจากจะต้องรับผิดชำระเงินเพิ่มแล้ว ยังจะต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับอีก 1 เท่าหรือ 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระแล้วแต่กรณี เงินเบี้ยปรับดังกล่าวอาจลดหรืองดได้ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี
- กรณีไม่ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90, 91 หรือ 94 ภายในกำหนดเวลา ต้องระวางโทษปรับทางอาญาไม่เกิน 2,000 บาท
- กรณีจงใจ แจ้งข้อความเท็จ หรือแสดงหลักฐานเท็จหรือฉ้อโกง เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
- กรณีเจตนาละเลยไม่ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ้างอิง : https://www.rd.go.th/562.html
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย เพื่อหักค่าใช้จ่ายได้ถูกต้อง
- ใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เช่น BplusERP ช่วยจัดการ
- หากธุรกิจโต → จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงและเสียภาษีในอัตรานิติบุคคล
มนุษย์เงินเดือนที่ขายของออนไลน์ต้องยื่นภาษี ทั้งเงินได้ประเภทที่ 1 (งานประจำ) และประเภทที่ 8 (ขายของ) โดยคำนวณจาก รายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและลดหย่อน หากมียอดขายสูงเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจด VAT เพิ่ม เพื่อป้องกันโทษทางกฎหมายและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้เต็มที่!
✅ แล้ว Bplus ERP ช่วยเรื่องภาษีได้อย่างไร
ฟีเจอร์เด่นที่ช่วยคุณ:
- บันทึกรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียด
- รองรับเอกสารต้นทาง เช่น ใบเสร็จ, ใบกำกับภาษี, บิลเงินสด
- เปรียบเทียบภาษีแบบบุคคลธรรมดา vs นิติบุคคล ได้อัตโนมัติ
- คำนวณ VAT แบบรวม/แยกในระบบเดียว
- ออกรายงานภาษีขาย–ภาษีซื้อ พร้อมส่ง ภ.พ.30 ได้
- วิเคราะห์กำไรตามสินค้า / หมวดหมู่ / ช่องทางขาย
ภาษีไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้ามีระบบที่เข้าใจธุรกิจคุณ!
ไม่ว่าคุณจะขายผ่านหน้าร้าน, แพลตฟอร์มออนไลน์, หรือขายแบบขายส่ง Bplus ERP คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณทำบัญชีอย่างถูกต้อง ควบคุมต้นทุน และบริหารภาษีได้ครบจบในที่เดียว!
หากคุณกำลังมองหาระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ เราขอแนะนำ Bplus e-Commerce ตัวระบบสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม e-Commerce ไม่จำกัดจำนวนร้านค้าในแต่ละแพลตฟอร์ม ไม่ว่าคุณจะมีหลายร้านค้าแยกตามหมวดสินค้า หรือเปิดร้านค้าใหม่เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย Bplus ERP ก็พร้อมสนับสนุนการจัดการธุรกิจของคุณให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ด้าน
เขียนโดย AI
สนใจชมสาธิตการใช้งานเพื่อได้สิทธิทดลองใช้ ลงทะเบียนได้ที่นี่ คลิก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bplus ERP คลิก